Jan-2017
ญี่ปุ่นใบไม้แดง 2016 ตอนที่ 5 : มนต์รักโยโกฮาม่า & Shin Yakohama Prince Hotel
มนต์รักโยโกฮาม่า “Yokohama in love “
เมืองนี้มันคาใจตั้งแต่สมัยอ่านการ์ตูนตาหวานตอนเด็กๆ ขอมาเห็นซักครั้งจะได้ไปต่อ ^^
เป้าหมายของที่นี่ในครั้งนี้คืออยากมาเก็บภาพอ่าวโยโกฮาม่าตอนกลางคืนและไปเดินเล่นไชนาทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เค้าว่าอาหารขนมของกินที่นี่เด็ดนัก !
โยโกฮาม่า เป็นเมืองท่าหลักและมีท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศอีกด้วย โยโกฮาม่าตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงโตเกียว เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม การคมนาคม การค้า และแฟชั่นที่สำคัญ ถ้าเดินทางจากไทย บินมาลงฮาเนดะจะอยู่ใกล้ที่สุดเพราะอยู่ห่างออกไปแค่ 30 นาทีเท่านั้น แต่การเดินทางไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใดในญี่ปุ่นถ้าเรามี ตั๋วรถไฟอยู่ในเมือง เลือกใช้พาสที่เหมาะสมกับทริปของเรา จะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยค่ะ
เอาเป็นว่าเราเดินทางมาจากคารุยอิซาว่าเพื่อเข้ามาอยู่ใกล้โตเกียวกันอีกนิด ซึ่งใช้ JR East pass อันเดิมก็นั่งมานั่งสถานี Shin Yokohama กันได้ในไม่กี่อึดใจ เพราะโรงแรมที่พักเราในคืนนี้คือ Shin Yakohama Prince Hotel ต้องบอกว่าเด็ดเพราะอยู่ในทำเลทอง ติดสถานีชินโยโกฮาม่า และนอกจากจะมีห้างใหญ่ที่สถานี ร้านค้าร้านอาหารมากมายแล้ว ในตัวโรงแรม Shin Yakohama Prince Hotel ก็มีห้างเป็นของตัวเองอีกต่างหาก เรียกได้ว่าอยากจะช๊อปก็ไม่ต้องไปไกลเพราะมันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก เดินลงลิฟท์มาก็ถึงเลย แสนสะดวกมากๆจริงๆ ชั้นใต้ดินก็มีซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จัดว่าดีมากๆมีแต่ของดีๆน่าซื้อทั้งนั้น ถือเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตเกรด A ที่อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก คือทุกอย่างมันใกล้และสะดวกมากจริงๆ แต่น่าเสียดายที่มีเวลาอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว ยังไม่ได้เก็บบรรยากาศรอบโรงแรมหรือที่เที่ยวอื่นๆซักเท่าไหร่
หรือใครที่อยู่โตเกียวแล้วจะนั่งรถไฟมาเที่ยวโยโกฮาม่าเล่นๆได้น่ะ ที่นี่มีไชนาทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ร้านอาหารจีนเยอะมากๆ เบื่ออาหารญี่ปุ่นก็มาทานอาหารจีนราคาไม่แพงมากที่นี่ได้น่ะ สามารถไปเที่ยวแบบเดย์ทริปได้ค่ะ
เห็นประตูแล้วกลับบ้านได้ เย้ยยย รอก่อน ขอไปชิมซาลาเปาน้ำซุปกันก่อน
โยโกฮาม่า ไชน่าทาวน์ เป็นไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโยโกฮาท่า ในสมัยก่อนเมืองนี้เป็นเมืองชายทะเล ผู้คนส่วนใหญ่ทำประมง แต่ในปี 1859 ได้มีการเปิดเป็นเมืองท่าเพื่อใช้ติดต่อกับชาวต่างชาติ และได้มีชาวจีนเดินทางมาติดต่อค้าขายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้มีไชน่าทาวน์เกิดขึ้น ร้านค้าร้านอาหารต่างๆก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้กลายเป็นไชน่าทาวน์ที่มีขนาดใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากๆของโยโกฮาม่า แต่คิดว่าจุดประสงค์หลักของนักท่องเที่ยวก็น่าจะมาหาอาหารอร่อยทานกันซะมากกว่า เพราะร้านอาหารเยอะจริงๆ เลือกกันไม่หวาดไหว สำหรับคนที่ทานมาอิ่มแล้วก็หาของทานเล่นทานชิมกันเพลินๆได้น่ะ
การเดินทางมาไชน่าทาวน์
เดิน 10 นาที จาก Motomachi-Chukagai Station (Minato Mirai Line)
เดิน 10 นาที จาก Ishikawacho Station (JR Negishi Line)
เดินมาถึงเรามาสะดุดตากับเมนูนี่ จะเรียกว่าอะไรดี หน้าตาคล้ายขนมจีบบวกกับเสี่ยวหลงเปาเพราะเห็นมีขายอยู่หลายร้านแต่ร้านนี้แลดูหน้าเชื่อถือดี แวะซะเลย
เห็นพนักงานยืนทำกันสดๆที่หน้าร้านเลย ดูน่าทานมากๆๆ หน้าตาคล้ายเสี่ยวหลงเปา วิธีการทำและวิธีการทำก็เหมือนกัน แต่แป้งที่นี่จะหนาหน่อยแล้วเอาไปทอด ไม่นึ่งและไม่บางเหมือนเสี่ยวหลงเปา แต่ทานแล้วมีน้ำซุปไหลออกมาให้ได้ซดเหมือนกัน (พูดไปน้ำลายไหลน่ะเนี่ย อิอิ)
ดูเอาเอง น้ำซุปทะลักขนาดไหน …น่าทานมากกกก
วิธีการห่อเหมือนขนมจีบธรรมดานี่ล่ะ
ลูกกลมๆก็มี เอาไปทอดน่ะ
ราคารับได้ 4 ลูก 500 เยน กับแบบเสี่ยวหลงเปาแป้งหนาๆ ก็ 4 ลูก 500 เยน
น้ำซุปอร่อยมากกกกก!!! ซดดดไม่หน่ำใจเลย
ซดน้ำซุปก่อนตามระเบียบ อร่อยจริงๆ แต่ดูหลายร้านที่ขายแถวนี้ก็น่าอร่อยน่าทานทั้งนั้นน่ะ เอาเป็นว่าถูกชะตากับร้านไหนก็จัดร้านนั้นเลยล่ะกัน
ทอดจะหอมแป้งไปอีกแบบ แต่แบบนี้แป้งหนาไปนิดทานหมดนี่อิ่มเลย
2 ถาด พันเยน อันซ้ายเหมือนเสี่ยวหลงเปามาก ให้ขิงซอยมาด้วยแต่เค้าไม่มีจิ๊กโฉ่วให้เหมือนของจีนน่ะ คือทานแห้งๆแบบนี้ เพราะเดี๋ยวน้ำซุปมันจะออกมาเอง อร่อยมากๆ แบบทอดก็อร่อยมาก
ทานเสร็จออกมาเดินเล่นชมเมืองกันต่อ ย่านนี้คึกคักเลยค่ะ เดินเล่นคนเดียวไม่มีเหงา
ร้านนี้แอบขายถูกกว่า 4 ลูก 480 เยนเอง
นอกจากร้านอาหารมากมายแล้วยังมีของที่ระลึกให้ได้เสียเงินซื้กกันนับไม่ถ้วน
ถ้ามีเวลาจะเดินเก็บภาพประตูให้ครบทั้ง 4 แห่งแต่เวลามีน้อยเพราะต้องรีบไปถ่ายภาพทไวไลท์ที่อ่าวโยโกฮาม่ากันก่อน
Kishamichi Promenade ท่าเรือโยโกฮาม่าให้ได้ ใครชอบชิลและชอบถ่ายรูปนี่ต้องห้ามพลาดเลย อากาศหนาว เดินจับมือกัน นั่งดูไฟ ชมบรรยากาศสวยๆชองโยโกฮาม่ายามค่ำคืนมันฟินมาก อ้อ มีพิพิธภัณฑ์เรือนิปปินมารุ (Nippon Maru) สุดคลาสสิคจอดอยู่ที่นี่ด้วยน่ะ
การเดินทางมากันง่ายๆ คือนั่ง JR มาลงสถานี Sakuragicho แล้วเดินออกมา ข้ามถนนก็เจอเลยค่ะ หรือจะมาลงที่สถานี Bashamishi ก็ได้แต่อันนี้เดินไกลนิดและมันวังเวงหน่อยในช่วงค่ำๆ แนะนำให้มาลงที่ Sakuragicho ดีกว่า
ปล…ชุดนี้ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้องนะคะ ซึ่งถือว่าพลาดมาก เพราะจริงๆแล้วเอาไปแต่ทิ้งไว้ที่โรงแรม ขีเกียจแบก พอมาเห็นแล้วก็เสียดายจัง ใครที่อยากมาเก็บภาพ ยอมแบกซักหน่อยเนอะ รับรองได้ภาพสวยกว่านี้มากๆแน่นอน
พาไปเดินเล่นชมบรรยกาศอ่าวโยโกฮาม่าที่ Kishamichi Promenade ที่สวยงาม
สวยงามมาก บรรยากาศดี้ดีเดินเล่นกินลมชมวิวริมน้ำ โรแมนติคมากกก ….. คนเดียว 5555
เรือนิปปอน มารู ในตำนานปลดประจำการแล้วก็จอดอยู่ที่นี่น่ะ สามารถขึ้นไปชมได้แต่ตอนที่ไปถึงเค้าปิดพอดี
ค่าเข้าชม 600 เยน
เปิด 10:00 – 17:00 (เข้าชมได้ก่อน 16:30)
พิพิธภัณฑ์นิปปอนมารุ และท่าเรือโยโกฮาม่า(Nippon Maru and Yokohama Port Museum) สร้างขึ้นในปี 1930 เป็นเรือที่เคยนำมาใช้งานจริงนำมาเชื่อมต่อให้ตั้งอยู่อย่างถาวรที่ Minato Mirai ตรงข้ามเรือคือพิพิธภัณฑ์ท่าเรือโยโกฮาม่า (Yokohama Port Museum) ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท่าเรือ และความสัมพันธ์ต่อวิถีชีวิตประจำวันของประชาชน ในระยะเวลา 150 ปี
การเดินทางก็เช่นเดียวกันคือ มาลงที่สถานี Sakuragicho หรือ JR Keihin Tohoku Negishi line / Municipal Subway line หรือ Minatomirai Station (Minatomirai line)
ไม่มีขาตั้งก็ไม่หวั่น หาที่วางกล้องไปเรื่อย ถ้าหาไม่เจอก็วางบนพื้นนั่นแหล่ะ ชัวร์ แต่มุมนี้สวยดีน่ะ
บรรยากาศยามเย็นดีต่อใจมาก อากาศก็เย็นสบาย เห็นรูปแล้วอยากจะกลับไปอีกครั้งเลยเพราะยังเดินไม่ทั่วก็มืดซะก่อน
เวลามีน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด มีเวลาอยู่ที่นี่คืนเดียว รีบไปรีบมาขอให้ได้เห็นอ่าวโยโกฮามม่าและไปไชนาทาวน์แล้วก็พอใจ รีบกลับมานอนพักที่โรงแรมกันก่อนจะเข้าโตเกียวดีกว่า
Shin Yokohama Prince Hotel
โรงแรมชิน โยโกฮาม่า ปริ้นซ์ ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟชินโยโกฮาม่า อย่าไปผิดสถานีล่ะ ไม่ใช่สถานีโยโกฮาม่าน่ะจ๊ะ เดินออกจากสถานีมาให้เลี้ยวขวาเดินออกไปแล้วเลี้ยวซ้านอีกนิดก็ถึงแล้ว ระหว่างทางเดินผ่านร้านอาหาร ร้านค้ามากมายไม่มีเหงากันเลย เข้ามาถึงตัวโรงแรมโออ่ากว้างขวางเลยค่ะ
อ้อ โรงแรมอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์ราเมงมากแต่เราไม่ได้ไปเหมือนกัน ใครไปพักแล้วอย่าลืมไปนะคะ เดินไม่ไกลเลย
โรงแรมเป็นตึกสูง 150 เมตร 904 ห้องและมีห้องพักให้เลือกให้ตรงความต้องการของเราถึง 13 แบบ ราคาเริ่มต้นก็ไม่ได้แพงมาก ราคาแบบนี้จับต้องได้ค่ะ แถมมีโปรโมชั่นออกมายั่วกิเลสเราเรื่อยๆด้วยน่ะ
ห้องพักขนาดกำลังดีนอนคนเดียวก็สบาย สองคนก็ไม่อึดอัด ถือว่าเป็นห้องพักที่มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยล่ะ บรรยากาศภายในห้องก็สบายๆตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ผ้าม่านและพรมสีส้มน้ำตาล ห้องทาสีเหลืองครีมดูอบอุ่นดี มีหน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวเมืองโยโกฮาม่าได้กว้างไกล ในวันอากาศดีก็ยังสามารถมองภูเขาไฟฟูจิ ได้จากหน้าต่างห้องนอนเลยล่ะ หามุมหาห้องกันเอาเองล่ะกัน อิอิ
ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีฟรี Wifi ให้ก็ค่อนข้างสะดวก แต่เราไปญี่ปุ่นก็มักจะมี Wifi หรือใช้ซิมที่เล่นเน็ตได้อยู่แล้ว ในห้องมีโต๊ะทำงาน โคมไฟ ชา หม้อต้มน้ำร้อน ไดร์เป่าผม เก้าอี้นั่งริมหน้าต่าง ทีวีไว้เปิดฟังเสียงเป็นเพื่อน
Shin Yokohama Prince Hotel
ที่อยู่ : 3-4 Shin Yokohama, Kohoku-ku, Yokohama Kanagawa, 222-8533 Japan Tel: 81-(0)45-471-1111
เวบไซด์ : http://www.princehotels.com/shinyokohama/
แอบเห็นโปรดี้ดีแว๊บๆ จอง 5 คืนลด 30% นะคะ ราคาห้องเริ่มต้นแค่คืนล่ะไม่ถึง 6000 เยน ลองหาวันดูล่ะกัน
ห้องเราอยู่ชั้น 18 สูงพอที่จะเห็นฟูจิในวันที่อากาศเป็นใจ และแน่นอนว่าห้องต้องอยู่ฝั่งที่มองเห็นด้วยน่ะ อิอิ
ห้องน้ำครบครันตามสไตล์ญี่ปุ่น มานี่ไม่ต้องพกแชมพู สบู่ ครีมนวดมาเลย เพราะทุกโรงแรมเค้ามีให้ ถ้าต้องเอามาเองก็คงจะเป็นพวกครีมโลชั่นทาตัว เอาที่เราใช้ประจำมาดีกว่าและไม่ใช่ทุกโรงแรมเค้าจะมีให้น่ะ เอามาเองเหอะ ยิ่งหน้าหนาวอากาศแห้ง ไม่ใช้โลชั่นทาผิวรับรองผิวแตกคันยุบยิบแน่ๆ
ห้องมีกระจกบานใหญ่ให้เราได้ดูเต็มตัว
มาคนเดียว หมอนใบเดียวจ้า อ้อ ทุกโรงแรมที่ไปพักมา เค้ามียูคาตะหรือชุดในในห้องให้นะคะ
วิวจากห้องพัก แต่มุมนี้ไม่ใช่มุมฟูจิน่ะ แต่อากาศแบบนี้ต่อให้ฟูจิอยู่ตรงหน้าก็มองไม่เห็นอยู่ดี เอาไว้กลับไปลุ้นใหม่
พูดถึงโลชั่นไปแหม๊บๆ …… ที่นี่เค้ามีให้จ้า ไม่ต้องเอามา 5555
ห้องพักแบบต่างๆของโรงแรม ออกแบบตกแต่งไปโทนเดียวกัน ต่างกันที่ขนาดของห้อง ประเภทของเตียง เลย์เอ้าท์ วิวและสิ่งอำนวยความสะดวกนิดหน่อย ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานในห้องก็จะมีเหมือนกัน
โรงแรมใหญ่ โอ่โถงมาก
ห้องอาหาร “Kochel Buffet Restaurant” ของโรงแรม สำหรับทานอาหารเช้า ซึ่งเป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีทั้งอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นและแบบฝรั่งให้เลือกทานได้
กว้างขวางใหญ่โต อาหารอร่อย คือปรกติไม่ค่อยชอบตื่นเช้ามาทานอาหาร แต่ชอบทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่ญี่ปุ่น รู้สึกว่าอยากตื่นขึ้นมาชิมทุกที่เลย ^^
ห้องจัดเลี้ยงวิวเทพมาก ^^
Shin Prince Yokohama มีห้างเป็นของตัวเองน่ะจ๊ะ เรียกว่าเดินลงมาจากห้องพักก็ช๊อปกันได้เลย
เท่าที่เดินดูคร่าวๆก็มีร้านค้ายอดฮิตและข้าวของที่น่าจะโดนใจพวกเราอยู่ไม่น้อยเลย ราคาก็ปรกติเหมือนห้างข้างนอกนะคะ แต่สะดวกกว่าเพราะเราซื้อของกันในโรงแรมเลย
ABC mart ก็มี แบบเยอะด้วยสิ
ร้านขายเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าแบบไม่แพงก็มีน่ะ
ร้านยอดนิยมของคนไทยอย่าง GU ก็มี แถมเป็นร้านใหญ่ซะด้วย
แต่ที่ชอบมากๆๆคือซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่าง คืออย่างเทพ!!!
บอกเลยมีทุกอย่าง ของดีๆเหมือนในห้างหรู (มันก็หรูนั่นแหล่ะ อิอิ) คือครบมาก ..
มือดึกของเราก็ได้มาจากที่นี่ล่ะ ฟิน!
โอ๊ยๆๆๆตายไปเลย ชอบญี่ปุ่นในความมีระเบียบของเค้านี่แหล่ะ เนื้อยังมีระเบียบน่าเรียงลงท้องจริงๆ อิอิ
ดูลายซะก่อน
ราคานี้ถ้าอยู่เมืองไทยจัดแล้ว นี่ไม่รู้จะเอาไปทานยังไงในห้องนอนเนี่ย
สวยงามเลอค่า ^^
ไม่ต้องไปหาอะไรในร้านสะดวกซื้อเพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นยอดมันอยู่ข้างล่างห้องพักเรานี่เอง
แบบนี้ก็ต้องจัดมื้อดึกสินะ “””
อ้อ จะบอกว่าทริปนี้ดื่มเจ้านี้ไปทุกวันๆล่ะสองสามขวดน่ะ มันคือดีมาก แต่ไม่ได้มีทุกที่ใครเห็นแล้วลองคว้ามาลองดูได้ เป็นน้ำมะนาวแบบมีวิตามิน C เยอะมาก มิน่าแข็งแรงและหิวง่ายจัง อิอิ