Feb-2017
Shirakawa-go Light up ชิราคาวาโกะ ไลท์อัพ …. จุดหมายในญี่ปุ่นอันดับ 1 ในใจ
ชิราคาวาโกะ วันที่ 23 มค. 2017
” รูปถ่ายเพียง 1 ใบ ทำให้เราออกเดินทาง ”
ตกหลุมรักชิราคาวาโกะตั้งแต่แรกพบที่เป็นเพียงแค่รูปถ่ายในอินเตอร์เน็ต ในที่สุดวันนี้ก็ได้ไปเห็นกับตาเสียทีกับหมู่บ้านชิรากาวะ จังหวัดกิฟุ มรดกโลกที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ตอนที่ไปหิมะตกหนักมากๆขาวฟูไปหมดยิ่งทำให้บรรยากาศโรแมนติค (แต่ก็หนาวมากเช่นกัน) เมื่อคืนอุณหภูมิราวๆ -6 พอไหว แต่หิมะตกหนักมากพร้อมสะพายกล้อง 2 ตัว ขาตั้งกล้องด้วย เป้ด้วย ผ้าพันคอ เสื้อหนาวตัวหนาวๆ ไหนจะหมวก ที่ปิดหู ถุงมือก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้างนี่มันช่างรุงรังแท้ 5555 แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการที่เก็บภาพล่าความฝันครั้งนี้ได้ เดินฝ่าดงพายุหิมะซ่อกแซ่กมุมนั้นออกมุมนี้ กดชัตเตอร์ท่ามกลางฝนหิมะมันสนุกมาก ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงว่ากล้องมันจะทนหนาวทนหิมะได้เหมือนเรามั้ย รู้แต่ ฉันจะไม่กลับบ้านมือเปล่า … และกล้องมันก็อึดไม่แพ้เราแฮ่ะ ^^
ความเดิมตอนที่แล้ว
นั่ง Yufuin No Mori ไปแช่ออนเซนที่ Yufuin (ยุฟุอิน) เมืองน่ารักน่าชังสุดโรแมนติค
วาร์ปมาถึงเมืองเกโระ (Gero) แล้ว
เกโระออนเซน(Gero Onsen) เป็น 1 ใน 3 ออนเซนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ระหว่างนาโกย่าและทาคายาม่า ภายในเมืองมีห้องอาบน้ำสาธารณะ 3 แห่งเปิดให้บริการ รวมถึงห้องอาบน้ำกลางแจ้ง (rotenburo) ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของปลายสะพานเกโระสามารถใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆใดๆ เกโระมีโรงแรม ที่พัก เรียวกังให้นักท่องเที่ยวมาพักผ่อนมากมาย เราเองก็ได้พักโรงแรมที่มีออนเซ็นที่ดีมากๆและมีถึง 3 บ่อ เลยไม่ได้ออกมาแช่น้ำที่ข้างนอกโรงแรมเลยเหมือนกัน (รู้สึกขาดอรรถรสในการมาเที่ยวที่นี่เหมือนกันแฮ่ะ)
แต่ลำพังแค่วิ่งแช่ออนเซ็นในโรงแรมก็วิ่งกันไม่ไหวแล้ว น่าเสียดายที่ถ่ายรูปออนเซ็นที่นี่มาเกือบครบทุกบ่อ (ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพ) แต่ไม่ทันได้โหลดรูปก็ฟอร์แมทการ์ดไปเสียก่อน เลยไม่มีภาพออนเซ็นสวยๆของโรงแรมมาฝากกันเลย จุ ด นี้ เ สี ย ใ จ ม า ก ก ! ! !
ก่อนอื่นมาเช็คอินโรงแรมที่พักของเรากันก่อนซึ่งก็คือโรงแรม Suimeikan นั่งรถไฟมาถึงสถานีก็ออกมามองหาพนักงานของโรงแรมที่มาถือป้ายชูรอรับเราอยู่ จริงๆถ้าไม่มีรถก็เดินไปได้เพราะโรงแรมอยู่ห่างจากสถานีแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเอง เดินเล่นชิลๆเต็มที่ก็ 10 นาทีถึง แต่อากาศหนาวจัดแบบนี้มารับแหล่ะดีแล้ว เพราะระหว่างรอรถวนมารับก็ยืนสั่นงั่กๆๆอยู่ที่สถานีนั่นแหล่ะ มันหนาวยะเยือกได้ใจจริงๆ
ถึงโรงแรมแล้ว โอ้โห ใหญ่โตมากวิ่งเล่นกันไม่ทั่วแน่ๆ
Suimeikan เป็นโรงแรมขนาดใหญ่พื้นที่ 33,000 ตรม. ประกอบไปด้วยตึกทั้งหมด 4 ส่วนคือ Sairanso, Rinsenkaku, Haisenkaku และ Sansuikaku ที่สร้างขึ้นติดแม่น้ำฮิดะ พร้อมพรั่งไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจริงๆ ล็อบบี้ใหญ่สวยงาม มีสวนญี่ปุ่น ห้องอาหารหลายห้อง Suimei Health club ซึ่งประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำในร่มขนาดใหญ่และสระกลางแจ้ง และฟิตเนส ร้านทำผม ห้องเกมส์ ห้องคาราโอเกะ
ห้องพักมีหลายแบบทั้งห้องพักแบบญี่ปุ่น เรียวกัง ห้องแบบตะวันตก ทั้งห้องเดี่ยวและห้องคู่ ดูรายละเอียดของโรงแรมที่นี่เลย ===> http://www.suimeikan.co.jp/english/
เช็คห้องว่างและจองห้องได้ที่นี่ ===> Suimeikan onlin reservation
ล็อบบี้ เลาจน์ใหญ่โตสวยงาม ดูอบอุ่นมาก
เห็นขนมหน้าตาดีแบบนี้ เดาสิราคาเท่าไหร่ …??
500 เยนเองจ้าาาาแต่ถ้าเป็นชุดกับน้ำชา ราคา 900 เยน ถูกมาก มีหลายแบบให้เลือก แต่อ่านไม่ออกหรอกน่ะ จิ้มสั่งตามรูปเอาได้ อิอิ
เป็นถ้วยๆอร่อยสุด ^^
สวนญี่ปุ่นพร้อมบ่อปลาคาร์พใหญ่โต ปลาก็ตัวใหญ่เบิ้มมากๆ
เสียดายมาก รูปถ่ายโรงแรมมุมอื่นๆรวมทั้งห้องพัก หายไปกับการ์ด เลยไม่มีรูปที่ถ่ายมาฝาก แต่เราเข้าไปดูรายละเอียดของห้องได้ในเวบของโรงแรมที่บอกไว้ได้เลยน่ะ
ด้วยความที่เป็นโรงแรมใหญ่ แขกเลยมากมายตามไปด้วย ถือว่าเป็นโรงแรมยอดฮิตในเกโระกันเลย และที่เค้านิยมกันมันก็มีเหตุผลน่ะเพราะที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและอยู่ใกล้สถานีรถไฟมากๆ ออนเซนก็ดีงามมีหลายบ่อให้แช่ ก็ถือว่าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวส่วนมากได้ดีเลยล่ะ
รูปที่ถ่ายไว้หายหมด ขอเอาภาพของโรงแรมมาให้ดูกัน จะได้เห็นภาพว่าออนเซ็นที่นี่มันเจ๋งขนาดไหน
ออนเซ็นที่นี่มี 3 แห่ง กระจายไป 3 ตึกของโรงแรมเลยน่ะ ห้องนี้เป็นห้องวิวพาโนราม่า แช่ไปชมวิวเมืองเกโระได้เต็มตาเลย ห้องนี้อยู่ชั้น 9 เปิด 24 ชม.เลยน่ะ
Shimodome Bathhouse
ห้องนี้มีความพิเศษคือสร้างด้วยไม้สนฮิโนกิทั้งหมด ทั้งเสา เพดาน ฝาผนัง มองออกไปเป็นสวนญี่ปุ่นเข้ากันมาก ห้องนี้ใหญ่และแช่สบายมาก
ห้องนี้อยู่ชั้น 3 เปิดตั้งแต่เวลา 05:00 ถึงเที่ยงคืน
บ่อนี้สวยมาก อยู่ตึกที่เรานอนเอง แยกบ่อชายหญิง มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง บ่อไม่ใหญ่มากนักแต่สวยมากเลย
เปิดให้บริการตั้งแต่ 05:00 – เที่ยงคืน
ห้องแบบส่วนตัว เหมาแช่กันไปเลยได้ครั้งล่ะ 60 นาที ราคา 2000/3000 เยน
เปิดระหว่างเวลา 10:00 – 21:00
ไปเดินเล่นชมเมืองเกโระกันดีกว่า รองเท้าใส่เดินหิมะ ซื้อมาจาก ABC mart ที่ห้างโยโดบาชิ ที่โอซาก้า ถือว่าราคาไม่แพงเลยคิดเป็นเงินไทยพันกว่าบาท แต่เอาหิมะที่ชิราคาวาโกะอยู่น่ะ คืออยู่แค่ 2 ชั่วโมงด้วย ถ้าอยู่เกินกว่านั้นน้ำคงมีซึมมาบ้างล่ะ แต่ก็ถือว่าคุ้มที่ซื้อมาจริงๆ
เกโระ เป็นเมืองเล็กๆไม่ใหญ่โตมากนัก เดินข้ามสะพานเกโระจากฝั่งโรงแรมและสถานีรถไฟมาก็เดินเล่นตามถนนสายหลักก็ชิลแระ มันมีอยู่สายเดียวนี่แหล่ะ
เมืองใหญ่กว่าที่คิดน่ะ คือมีตึกสูงให้เห็นมากพอควร บางเมืองที่ไปไม่มีตึกสูงแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
มีเวลาเดินเล่นริมแม่นำ้ฮิดะก็โรแมนติคน่ะ
หิมะตกน้อยมาก ผิดกับทุกที่ที่ไปในทริปนี้ ทั้งๆที่มีพยากรณ์ว่าหิมะจะตกในวันที่ไป ก็ไม่มีน่ะ ในขณะที่ทาคายาม่าและชิราคาวาโกะนี่ตกฟูมากๆ แปลกดีเหมือนกัน
ตึกที่เห็นคือโรงแรมที่เราพักเองล่ะ
ตึกใหญ่ตลอดริมแม่น้ำเลย ตอนแรกก่อนที่มาก็ไม่คิดว่าเกโระจะเจริญและเป็นเมืองใหญ่แบบนี้น่ะ สงสัยไปเทียบกับอาริมะ ออนเซน ที่เป็นเมืองเล็กๆ
นั่งรถบัสของ Nohi ไปชิราคาวาโกะ ราคา 5200 เยนซึ่งออกจากเกโระตอน 14:30 ไปแวะรับผู้โดยสารที่ทาคายามะ และเดินทางไปถึงชิราคาวาโกะประมาณ 17:15 มีเวลาเดินเล่นเก็บภาพท่ามกลางหิมะตกหนักมากแค่ 2 ชม.ก็ต้องกลับไปขึ้นรถตอน 19:30 เวลาน้อยนิดมากแต่เป็น 2 ชม.ที่ประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆ
ดูรายละเอียดของทัวร์นี้ได้ที่นี่เลย ==> https://www.nouhibus.co.jp/english/
บรรยากาศระหว่างทางไปชิราคาวาโกะ หิมะตกตลอดทาง
เก็บภาพบรรยากาศระหว่างทางไปชิราคาวาโกะมาให้ชมกันเยอะเลย
ผ่านเมืองเล็กเมืองน้อย หิมะตกปรอยปรายถึงตกหนัก ญี่ปุ่นที่ว่าสวยตอนนี้ยิ่งสวยงามขึ้นไปอีก
ไม่รู้ล่ะ เห็นอะไรถ่ายหมด อิอิ
Shirakawa-go ชิราคาวาโกะที่ฝันถึง … มาถึงแล้วน่ะ !!
กว่าจะมาถึงที่นี่ในวันนี้จริงๆมีเรื่องเล่า เพราะมันมีที่มาที่ไปยาวเหยียดแต่ไม่เล่าดีกว่า เอาเป็นว่าได้มาเยือนชิราคาวาโกะแบบฟลุ๊คๆชนิดที่ไม่ได้ตั้งตัว เพราะขาตั้งกล้องยังเพิ่งมาหาซื้อเมื่อวานที่เมืองเกโระด้วยซ้ำ
Shirakawago light up จัดแค่ปีล่ะไม่กี่วันต้องเช็คกันดีๆน่ะ ปีนี้จัดวันที่ 22/23 มค. 29/30 มค. และ 5/6 กพ. พลาดแล้วรออีกทีปีหน้าเลย
มาถึงจอดรถจอดที่ลานจอดแล้วต้องเดินข้ามสะพานนี้ไปหมู่บ้าน หิมะตกหนักหนามาก แต่ก็สวยมากๆเช่นกัน
หิมะตกหนักขนาดไหน ดูกัน …. เป็น 2 ชั่วโมงที่ต้องเรียกได้ว่าผจญภัยพอสมควร ทั้งเป้หลัง ถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ กล้อง 2 ตัว ขาตั้งกล้อง เพิ้งมาก !!
แต่มันคือจุดหมายในฝันนี่หน่า ยังไงก็ขอเก็บภาพกันบ้าง
ชิราคาวาโกค ไลท์อัพสวยทุกมุม ทุกช่วงเวลาจริงๆ ไม่รู่จะบรรยายให้เห็นภาพกันยังไง ชมกันเองนะคะ เก็บมาฝากกันพอสมควรเลย แต่เสียดายที่หิมะตกหนักมากจนทางปิดเดินขึ้นไปบนเขาไม่ได้ เลยไม่ได้เก็บภาพมุมมหาชนมาฝากกันแต่ไม่เป็นไรเพราะถ้าเดินขึ้นไปได้ก็ไม่มีที่ยืนให้ถ่ายภาพอยู่ดี เห็นว่าในวันปรกติทั้งช่างภาพ ทั้งนักท่องเที่ยวแน่นเต็มพื้นที่ไปหมด เราไปถึงมืดแล้วยังไงก็ไม่ทันชาวบ้านเค้า
เดินเก็บภาพบรรยากาศหมู่บ้านน่ารักๆแห่งนี้กันแบบนี้ก็ได้เนอะ
ด้วยเวลาจำกัดแค่ 2 ชั่วโมงในสภาพอากาศอันหนาวเย็นและหิมะตกหนักหนามาก คือเห็นอะไรถ่ายเรียบล่ะกัน จนมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านสามหลังนี้ คือต้องขอต่อคิวช่างภาพยืนเบียดถ่ายรูปแบบไม่กลัวนิ้วแข็งหรือกล้องพังกันเลย
ข้อมูลการเดินทางจาก JNTO (การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น)
การเดินทางมายังหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
โดยรถสาธารณะ : ขึ้นรถบัสบริษัท Nohi Bus จากคะนะซะวะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ราคา 1,850 เยน
.
หรือ ขึ้นรถบัสจากเมืองทะกะยะมะ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ราคา 2,470 เยน
หรือ รถชัทเทิลบัส (Kaetsuno Bus) จากทะกะโอกะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ราคา 1,800 เยน
.
หรือ รถบัสจาก Nagoya ไป Gifu ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ราคา 3,600 เยนหมายเหตุ : รถบัส Nohi ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า และอาจจะถูกจองล่วงหน้าจนเต็มในช่วงที่มีงานเทศกาล
.
การสำรองที่นั่ง : Nohi Bus Reservation Center TEL (0577) 32-1688 มีบริการด้วยภาษาอังกฤษ (เวลา 9.00-18.00 น.)
.
เว็บไซต์ : http://www.nouhibus.co.jp/english (ภาษาอังกฤษ)
Kaetsuno Bus : http://www.kaetsunou.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
Gifu Bus : http://www.gifubus.co.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)*ส่วนรถบัสที่วิ่งเพื่อไปชม Light Up จะเป็นรอบพิเศษ Winter Light Up Bus (สามารถจองได้ 1 เดือนล่วงหน้า)
ขาออก 16:15 และ 17:05
ขากลับ 19:15 และ 20:05
โดยรถยนต์ส่วนตัว: ไม่เเนะนำในการขับรถไปด้วยตัวเองในช่วงที่มีงานแสดงแสงสี เนื่องด้วยลานจอดรถปกติภายในหมู่บ้านชิระคะวะโกจะถูกปิด และสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ถนนลื่นและหิมะตกสูง
ลาแล้วน่ะ ชิราคาวาโกะ ที่ฝันถึง แม้วันนี้จะไม่ได้บรรลุถึงจุดหมายสูงสุดคือขึ้นไปเก็บภาพไลท์อัพที่จุดชมวิว แต่การที่ได้เดินเล่นเก็บภาพหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ในวันที่หิมะโปรยปรายอย่างหนักก็ถือว่าฟินระดับพีคกันเลย วันนี้ที่ชิราคาวาโกะ จะเป็นวันที่จะอยู่ในความทรงจำดีๆตลอดไป
..
มีโอกาสต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน สัญญา ^^