Dec-2015
เที่ยวเซียงไฮ้เองด้วยตัวเองง่ายกว่าที่คิด ประเดิมจีนด้วยไฟลท์ตรงจาก Thai AirAsia X
นอกจากโตเกียว โอซาก้า และอินซอน เกาหลี ตอนนี้เราสามารถบินไปเซียงไฮ้ ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกแล้วเมื่อ Thai AirAsia X ให้บริการเที่ยวบินตรงทุกวันไม่ต้องต่อเครื่อง จากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)สู่ สนามบินผู่ตง เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนค่ะ
เราเลือกนั่ง Quiet Zone ซึ่งต้องขอแนะนำเลยว่ามันดีมาก เพราะโซนนี้คือโซนพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความเงียบสงบระหว่างการเดินทาง และจำกัดอายุผู้โดยสารมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ภายในห้องโดยสายก็มีแสงไฟโทนสีฟ้าสบายตาเพื่อความผ่อนคลายอีกด้วยน่ะ
ถ้าจะนั่งโซนนี้ในที่นั่งธรรมดาก็จ่ายเพิ่มอีกแค่ 500 บาทเองค่ะ แต่ถ้าต้องการนั่ง Hot seat ในโซนี้ก็จ่ายเพิ่ม 1300 บาท แต่ได้ความเงียบสงบในเคบินได้พักผ่อนต่างกันมาก โดยเฉพาะไฟลท์เซียงไฮ้ ที่ผู้โดยสาร 90 % เป็นคนจีน ขาไปเป็นไฟลท์กลางคืนยังโอเคคือขึ้นเครื่องไม่นานก็นอนกันหมดแต่ขากลับเป็นไฟลท์กลางวัน โซนธรรมดามันจะครื้นเครงไปมั้ยไม่รู้น่ะ 555 เชื่อเถอะ บินหลายชม. จ่ายเพิ่มนิดหน่อยมันสบายกว่ากันมาก
ตารางบินทุกวัน
XJ760 จากดอนเมือง (DMK) 00:15 ถึง ผู่ตง (PVG) 05:40
มาถึงตีห้ากว่าไม่อยากรอ maglev ซึ่งจะออกตอนเจ็ดโมงกว่า เลยนั่งเมโทรเข้าเมืองแทนซึ่งใช้เวลาชม.กว่า (จริงๆรอ maglev) ก็จะถึงก่อนน่ะ 555
แต่เราจะประหยัดไปได้มากเพราะค่ารถแค่ 7 หยวน ส่วน maglev มัน 50 นั่งเมโทร ถูกกว่ากันเยอะเลย
Xintiandi (ซินเทียนตี้)
ซินเทียนตี้ แปลว่าโลกใหม่ เป็นย่านฮิปสุดเก๋อินเทรนด์ของเซียงไฮ้เลยน่ะ เป็นย่านที่อยู่อาศัยยุคเก่าของชาวเซียงไฮ้ บ้านเรือนประตูหินสวยงาม สถาปัตยกรรมเป็นลูกผสมระหว่างตะวันตกและตะวันออก บรรยากาศดีมากๆ ร่มรื่นด้วยอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลตลอดแนวสวยงามมากก ตอนไปฝนตก เมเปิลยังไม่เปลี่ยนสีน่ะ แต่ลองเปลี่ยนเล่นให้เห็นบรรยากาศ อิอิ แต่ถึงช่วงมันเปลี่ยนสีต้องสวยมากแน่ๆ
ซินเทียนตี้เป็นย่านที่มีร้านอาหารเก๋ๆมากมายหลายชาติ มีโต๊ะนั่งทานด้านนอกเหมือนฝรั่งเศส มีบูติคเก๋ๆแบรนด์ดังมากมาย เป็นแหล่งพบปะของคนต่างชาติ เป็นย่านที่คนมาใช้เงินกัน ถ้ามีเวลาจะอยู่ซักครึ่งวันเลย มาเซียงไฮ้ต้องห้ามพลาดเลยจ้า
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย 10 สีม่วง ทางออก exit 6 เลี้ยวซ้ายเดินเล่นไปเรื่อยๆซักร้อยสองร้อยเมตร จนถึงป้าย The site of the first national congress of cpc ก็เลี้ยวขวาไปโลดเลยจ้า
คนจีนเทพมาก หลับตาขี่จักรยานคล่องแคล่วเลย 555
การเดินทางในเซียงไฮ้ ต้องบอกว่าง่ายมากๆ แค่เรารู้ว่าเราจะไปไหน สายอะไรก็กดสายที่เราต้องการจะขึ้น สถานี และจำนวนผู้โดยสาร ใส่เงินไปแค่นั้นเลย
The Bund
หรือ หาดไว่ทัน ย่านเก่าแก่ในตัวเมืองเซียงไฮ้ อยู่ริมแม่น้ำหวงผู่ฝั่งตะวันตก ตรงข้ามกับหอไข่มุกแบะหอจินเหมา เป็นสัญญลักษณ์ของเมืองเซียงไฮ้ออายุนานถึง 100 ปี บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยอาคารแบบยุโรปสวยงามสง่ามากๆ เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซียงไฮ้ มีทางเลียบชมวิวแม่น้ำหวงผู่ระยะทาง 1.5 กม.ให้เดินเล่นชมทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างจุใจ ไป3 วัน แวะไปเดินเล่นที่นี่ 2 ครั้ง สมอยากกันเลย
Yuyuan Garden และ Yuyuan plaza
การเดินทาง นั่งเมโทรสาย 10 สีม่วงลงที่สถานี Yuyuan garden ค่ะ
ค่าเข้าชม Yuyuan garden 40 หยวน
ร้านดังที่ยูหยวนต้องชิมเสี่ยวหลงเปาซุปปูกันหน่อย ลูกล่ะ 15 หยวน รสชาติอร่อยเข้มและข้น แป้งหนาไปนิดแต่โดยรวมอร่อยค่ะ
East Nanjing Road ถนนสายช๊อปปิ้ง
ลอดอุโมงค์ข้ามแม่น้ำหวงผู่
เป็น 1 ใน 5 อย่างที่คนที่มาเที่ยวเซียงไฮ้ต้องห้ามพลาด เป็นอุโมงค์เลเซอร์ลดใต้แม่น้ำแห่งแรกของจีน ภายในตกแต่งด้วยแสงเลเซอร์สีสันตระการตาเปลี่ยนแปลงตลอดระยะทางกันเลย
เราขึ้นจากฝั่ง The Bund ค่าโดยสาร 50 หยวน เที่ยวเดียวหรือ 70 หยวนไปกลับกับระยะทางสั้นๆและมันผ่านไปเร็วมาก ปรับกล้องไม่ทันจ้าาา พลาดไปหลายช๊อตเลยโดยเฉพาะช๊อตเด็ดสีรุ้งที่กลายเป็นระเบิดซูมเว่อร์ไปหน่อย อิอิ แต่ก็ได้ภาพอุโมงค์ลอดใต้น้ำที่สวยเก๋ไปอีกแบบน่ะเนี่ย
แอดมินนั่งเที่ยวเดียวไปค่ะ อยากจะไปเดินเล่นฝั่งโน้นแล้วจะนั่งเมโทรข้ามฟากกลับมาก (จริงๆอยากประหยัด 555) เพราะค่ารถไฟที่โน้นเริ่มต้นแค่ 3 หยวนสำหรับสองสามสถานี อยากประหยัดก็ต้องแอพพลายน่ะ อิอิ
ข้ามมาเดินเล่มเลียบแม่น้ำชมวิวเมืองอีกฝั่งของแม่น้ำ ฝั่งนี้ก็สวยแถมชิลล์กว่าเพราะนักท่องเที่ยวน้อยมากค่ะ
แวะทานขนมที่ร้านเก๋ๆระหว่างเดินไปสถานีรถไฟกัน
Shanghai Film Musuem
พูดถึงเซียงไฮ้ บอกเลยคนวัยข้าพเจ้าจะนึกถึงหนังเจ้าพ่อเซียงไฮ้ก่อนเสี่ยวหลงเปากับหอไข่มุกน่ะ อิอิ
หลองปัน หลองเลา …มาถึงที่นี่ต้องไปสัมผัสบรรยากาศแบบในหนังเจ้าพ่อเซียงไฮ้กันหน่อย ตัวเองเป็นแฟนหนังฮ่องกงเหนียวหนึบอยู่ยุคนึง ต้องบอกว่าทั้งดูหนัง ทั้งฟังเพลง หลักฐานมีเต็มบ้าน (แต่แม่ชั่งกก.ขายหมด 555) และลืมไปว่าเจ้าพ่อเซียงไฮ้ มันเป็นหนังฮ่องกงนี่หว่า มาที่นี่คงไม่เจอหลักฐานอะไรแน่ๆ ซึ่งเดินหาก็ไม่เจอจริงๆน่ะ อิอิ เอาหน่า เอาเป็นว่าใครชอบแนวนี้ต้องห้ามพลาดกันน่ะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวย้อนยุคโดยถ่ายทอดออกมาให้น่าสนใจด้วยเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย เข้าไปตื่นตาตื่นใจมากๆ ทั้งภาพเก่า ประวัตินักแสดง ผู้กำกับ คนในวงการ hall of frame อุปกรณ์ทุกสิ่งอย่างในการถ่ายหนัง ถ่ายภาพ ถ่ายโฆษณา animation ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง เดินชม 4 ชั้นกันเพลินๆแบบไม่น่าเบื่อเลย
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย 1 สีแดง มาลงที่สถานี Shanghai Indoor Stadium exit 4 North Caoxi Rd. เดินตรงไปซักสองสามร้อยเมตรก็จะเห็นตึกของ Shanghai Film group อยู่ด้านขวามือตรงแยกพอดี ค่าเข้า 60 หยวนจ้า
ที่ พั ก
ทริปเซียงไฮ้ เราจองที่พักผ่านเวบ AirAsiaGo เลือกห้องกันอยู่นาน โดยพุ่งเป้าไปที่ทำเลแถว Huangpu-The Bund กันเป็นตัวเลือกแรก อยากได้ที่พักที่เดินทางสะดวก สวยและนอนสบายหน่อยเพราะมั่นใจทริปนี้เดินเยอะแน่นอน กลับมาเจอห้องสวยเตียงนอนสบาย มีอ่างให้แช่ความเหนื่อยมันบรรเทาจริงๆน่ะ ซึ่งเราเลือกพักที่โรงแรม Narada Boutique Hotel Shanghai Yu Garden ซึ่งอยู่ใกล้กับ Yuyuan garden แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่เดินเล่นต่อเนื่องไป The Bund ได้ในเวลาไม่กี่นาที อ้อ โรงแรมนี้ชื่อเก่าว่า Ssaw Hotel Shanghai น่ะ โรงแรมทำเลดี ห้องสวย อาหารเช้าเว่อร์วังอลังการไม่แพ้โรงแรมหรู 5 ดาวกันเลย แต่ไม่ได้ทานอะไรมากและไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากเพราะดันทานหลังจากรู้ว่าเพจหายอ่ะ มันอิ่ม ทานอะไรไม่ลง 5555
อ้อ โรงแรมนี้ได้คะแนน 4.3/5 หรือ 99% จากเวบ AirAsiaGo กันเลยน่ะ ที่ยอดเยี่ยมคือเราไปถึงแปดโมงเช้า ทางโรงแรมให้เช็คอินเลย แถมอัพเกรดเป็นห้องใหญ่ให้อีกต่างหาก พนักงานที่ฟ้อนท์พูดภ.อังกฤษได้ดี เป็นที่พึ่งได้มากๆๆเลย ข้อมูลหลายอย่างของทริปนี้ก็มาจากพนักงานที่นี่นี่แหล่ะ อิอิ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย 10 สีม่วงมาลงที่สถานี Yuyuan garden exit 4 เลี้ยวซ้ายเดินไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงโรงแรมแล้ว มองหาป้ายโรงแรม Ssaw Hotel น่ะ อย่าหา Narada เพราะเค้ายังไม่เปลี่ยนจ้าา
กลับมาที่เซียงไฮ้ มหานครที่ไม่เคยหลับใหล ช่วงเย็นห้ามหลับ ออกมาเดินเล่นริมแม่น้ำหวงผู่กัน เดินได้ยาวๆทั้ง 2 ฝั่งกันเลยค่ะ เอาฝั่ง The Bund มาฝากกันก่อนน่ะ ที่นี่สวยทั้งวัน แต่จะสวยเป็นพิเศษในตอนกลางคืน ไม่เชื่อลองไปเดินกันสิ ไทยแอร์เอเซียเอ็กซ์เค้าบินตรงทุกวันน่ะจ๊ะ ^^
The Qube
เป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน เราเลือกที่จะมานอนที่นี่เพราะโรงแรมอยู่ใกล้สนามบินค่าแท๊กซี่ 60 หยวนค่ะ ตอนมาโรงแรมก็นั่งรถไฟ 12 หยวน แล้วเดินต่อ 5 นาที รวมๆแล้วก็ประหยัดกว่านั่งแท๊กซี่จากในเมืองไปสนามบินแน่นอน นี่คือหตุผลเดียวเลย 555
Suzhou (ซูโจว)
รถไฟหัวกระสุนไปซูโจวมา วิกิบอกว่าเมืองนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศจีน เป็นเมืองเวนิสของจีน มีลำคลอง สะพานหินโบราณมากมายและมีสวนสวยมาก ทริปนี้ไปเที่ยวมรดกโลกมาที่เดียวก็ค่อนวันแล้วจ้า เป็นเมืองที่นั่งหัวกระสุนไปจากเซียงไฮ้แค่ครึ่งชม.เอง ไปเที่ยวแบบเดย์ทริปสบายเลย
การเดินทาง : แอดมินนั่งสาย 10 สุดสาย มาลงสถานี Hongqiao Railway station ค่าตั๋ว 39.5 หยวน (ทำไมไม่ 40 ไปเลยก็ไม่รู้เนอะ) ซึ่งเราสามารถไปจากสถานี Shanghai Railway Station ได้น่ะ เอาที่เราสะดวกเลยค่ะ มาถึงสถานีรถไฟซูโจว เลี้ยวซ้าย และขึ้นบันไดเลื่อนทางขวา ออกไปท่ารถเมล์ นั่งรถสาย 178/202 (เดินทาเอาเองน่ะ 555) ค่ารถ 1 หยวน ใช้เหรีญหยอดกล่องแล้วฉีกตัวเองได้เลยจ้า – ป้ายที่ลง … ลงตามคนน่ะ คนลงป้ายนี้เกือบหมดคัน อิอิ
เข้าชม world heritage site กันค่ะ
เดินเล่นชมบรรยากาศในย่านเมืองเก่า มองโน้นชมนี่เพลินๆ
แวะชิมเสี่ยงหลงเปา ที่ร้านนี้ อยู่หน้าป้ายรถเมล์กลับสถานีพอดี รสชาติใช้ได้ น้าจิ้มอร่อยมาก เค้าทานกับพริกตำด้วย