21
Dec-2018
Dec-2018
Road trip ภูมิภาคชูบุ ep 1 ตอน 10 ที่เที่ยวจังหวัดมิเอะที่ต้องห้ามพลาด
Road trip CHUBU – Mie prefecture
ทริปขับรถเที่ยว 4 จังหวัดในภูมิภาคชูบุ ซึ่งได้แก่ชิสุโอกะ มิเอะ ไอจิ และกิฟุเมื่อช่วงต้นเดือนตค.ที่ผ่านมา
มาเที่ยวญี่ปุ่นใช้พาสของรถไฟมันก็สะดวกดี ประหยัดระดับนึงแต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นเรื่องเวลาและสถานที่เที่ยว หลายที่ๆรถสาธารณะไปไม่ถึงหรือวิ่งวันล่ะเที่ยวสองเที่ยว เรามีเวลาน้อยมันก็ไม่สะดวก เคยไปเที่ยวทาการะคาวะออนเซน จากคารุอิซาว่า นี่ต้องใช้เวลากันทั้งวันแถมต้องรีบกลับอีกต่างหาก แต่ถ้าเรามาเที่ยวกับเพื่อนหลายคน การเช่ารถขับมันสะดวกและประหยัดกว่าถ้าเราวางแผนการเดินทางดีๆ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราขับรถเที่ยวในญี่ปุ่น ปลายปีที่แล้วก็ขับชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โทโฮคุกับเพื่อนๆหลายวัน ซ่อกแซ่กไปตามภูเขา ถ้าไม่เช่ารถขับ เราเข้าไม่ถึงทุกพื้นที่แน่นอน ซึ่งการขับรถเที่ยวเองที่ญี่ปุ่นมันไม่ยากเลย เพราะเค้าขับพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา สิ่งที่ต้องระวังก็เรื่องกฏจราจรและความเร็ว ถ้าเราปฏิบัติตามนี้ได้ การเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าของคุณ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปจริงๆน่ะ
ทริปนี้เช่ารถของบ. Times car rental ==> https://www.timescar-rental.com เค้ามีภาษาอังกฤษน่ะจ๊ะ
มองหาโปรดีๆ มักจะมีมาเสมอ ตอนนี้มีโปรโมชั่นขับรถในโตเกียว โอซาก้า นาโงย่า ราคาเริ่มต้น 6050 เยน สำหรับรถขนาดเล็ก ถ้าเราไปเที่ยวกันสามสี่คน กระเป๋าสัมภาระไม่มาก คือหารเฉลี่ยนคนล่ะไม่กี่ร้อยบาทเองน่ะ ค่าน้ำมันก็ไม่แพง จะแพงหน่อยก็ค่าทางด่วนนี่ล่ะ โดยเฉพาะถ้าเราเที่ยวข้ามจังหวัด ข้ามเมืองนี่เอาเรื่องเลย เพราะฉะนั้นเราวงแผนการเดินทางดีๆ เช่ารถขับถือเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะกับพวกเราที่ชอบเที่ยวแบบเจาะลึกหน่อยแน่นอน
วิธีการจองตามนี้เลยคือ
1.เลือกวัน เวลารับรถ สถานที่ เช่นสนามบิน
2.เลือกขนาดรถให้เหมาะกับการใช้งาน
3.เลือกประเภทความคุ้มครอง อุปกรณ์เสริมล้อสำหรับขับหิมะ หรือคาร์ซีทสำหรับเด็ก
4. กรอกข้อมูลส่วนตัวสำหรับจองเช่นชื่อ ที่อยู่ อีเมล์ เบอร์โทร เป็นต้น
ลงเครื่องที่สนามบินชูบุเซนแทร์ ก็เดินลงมารับรถที่จุดรับรถเช่าที่ชั้น 1 กันก่อน ทริปนี้เราเดินทางกันหลายคนเลยต้องใช้รถใหญ่หน่อย ค่าเช่ารถ 6 วัน พร้อมประกันแบบสูงสุดที่หากเกิดเหตุไม่ต้องสำรองจ่าย (เลือกแบบนี้ไว้กันเหนียวอุ่นใจที่สุด) ซึ่งตอนรับรถเราสามารถขอ ETC ซึ่งคือบัตรสำหรับจ่ายค่าทางด่วนอัตโนมัติในรถ (เหมือน easy pass ของเรา) และควรซื้อ CEP พาส (Central Nippon Expressway) ดูรายละอียดที่ลิงค์นี้ค่า ==> http://global.c-nexco.co.jp/en/ ถ้าจะมาเช่ารถขับในญี่ปุ่น (central japan) ควรจะซื้อ CEP พาสไว้ใช้นะคะ เพราะเราได้ใช้ทางด่วนแน่ๆ ซึ่งค่าทางด่วนของญี่ปุ่นนี่ขั้นโหดมาก ขึ้นทีมีเป็นพันบาท เพราะฉะนั้นแนะนำให้ซื้อพาสไว้ใช้แบบเหมาตามจำนวนวันใช้งานของเราจะดีที่สุด
ซึ่งการเช่ารถเราจะใช้แค่ใบจองและใบขับขี่สากล อย่าลืมทำไปจากเมืองไทย แค่ 550 บาท ใช้เวลาทำไม่เกิน 20 นาที ในรถทุกคันจะมีจอ Car Navigator ติดไว้ ตอนนี้มีหลายภาษาแล้ว ภาษาไทยของเราก็มี เพราะฉะนั้นสะดวกสบายมากมาย ให้เค้าตั้งค่าให้เราตอนรับรถเลย วิธีใช้ก็ง่ายมาก แค่ใส่ map code หรือเบอร์โทรศัพท์ของสถานที่นั้นๆ ลงไปก็ใช้งานได้ทันที อ้อ เลือกว่าใช้ทางด่วนด้วยนะคะ เพราะถนนของญี่ปุ่น เส้นทางปรกติกับทางด่วนนี้มันใช้ระยะทางและเวลาต่างกันมากมาย คือมันไม่ได้อยู่คู่ขนานกันแบบทางยกระดับบ้านเราน่ะ ถ้าเราไม่ใช้ทางด่วนคือต้องขับวนอ้อมอีกเส้นทางและใช้ระยะทางมากกว่ามาก อ้อ ตอนออกจากทางด่วนก็เหมือนบ้านเราคือเข้าช่อง ETC นะคะ
รับรถที่สนามบิน Chubu Centrair
ทำไมถึงต้องมาเที่ยวมิเอะ ?
-
จังหวัดมิเอะ เป็นต้นตำรับของนินจาอิกะสุดยอดนินจาของแท้ดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น
-
จังหวัดมิเอะ เป็นต้นกำเนิดของอามะจัง ผู้หญิงแห่งท้องทะเลของประเทศญีปุ่น
-
จังหวัดมิเอะ เป็นแหล่งผลิตเนื้อวัวมัตสึซากะ 1 ใน 3 สุดยอดเนื้อวัวที่ดีที่สุดในโลก
-
จังหวัดมิเอะ มีศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับ 2000 ปี หนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
-
จังหวัดมิเอะ มีฟาร์มไข่มุกมิกิโมโตะ ที่มีชื่อดังระดับโลก ดังขนาดที่เคยเอาไปทำมงกุฏนางงามจักรวาลกันด้วยน่ะ
-
จังหวัดมิเอะ ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะฮอนชู ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรคิอิที่ยื่นออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่แคบและทอดตัวยาวลงมาจากเหนือจรดใต้ ความซับซ้อนทางภูมิศาสตร์ทำให้สภาพอากาศมีความหลากหลาย จึงทำให้มิเอะมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกิน รวมไปถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ที่เก่าแก่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เพราะฉะนั้นมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อๆไป ไม่มามิเอะ ถือว่าพลาดน่ะจ๊ะ !!
1. ศาลเจ้าอิเสะ-จิงงู – Ise Jingu Shrines
หนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวญี่ปุ่น ศาลเจ้าอิเสะ เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ประกอบด้วยศาลเจ้ากว่า 125 แห่ง ได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยน่ะ ศาลเจ้านี้โดยสร้างเพื่อบูชา “เทพีอะมาเทราสึ” (Amaterasu) เทพีแห่งพระอาทิตย์ เทพเจ้าสูงสุดของชาวญี่ปุ่น ที่ศาลเจ้าอิเสะนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่สมเด็จพระจักรพรรดิเสด็จมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นประจำทุกปีด้วย
ที่แปลกกว่าที่อื่นคือในทุกๆ 20 ปีจะมีการบูรณะศาลเจ้าโดยให้ทุกอย่างยังคงแบบเดิมไว้มากที่สุด ถือเป็นการถ่ายทอดทั้งความรู้และทักษะของช่างฝีมือรุ่นเดิมให้กับช่างฝีมือรุ่นใหม่ ตำแหน่งของศาลเจ้าจะขยับทุก 20 ปี คือจะมีที่ 2 แปลง 20 ปีแรกจะใช้แปลงหนึ่งและอีก 20 ปีถัดไปจะใช้อีกแปลงหนึ่งสลับกันไป ผู้คนที่มาสักการะก็สามารถมาได้ทุกวันเวลา ทุกครั้งที่มาก็จะเจอศาลเจ้าในสภาพที่สมบูรณ์ ว่ากันว่ายุคเอโดะขาวญี่ปุ่นจำนวน 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมดจะเดินทางมาสักการะศาลเจ้าอิเสะ โดยเป็นแหล่งศูนย์รวมทางจิตใจของชาวญี่ปุ่นมากที่สุดเลยทีเดียว ชาวญี่ปุ่นในปัจจุบันก็ยังมีความเชื่ออยู่ว่าซักครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมาสักการะให้ได้
ที่อยู่ : 1 Ujitachi-cho, Ise city, Mie Prefecture, Japan
Map Code : 118 432 193*60
เกะคุ (ศาลเจ้าด้านนอก)
วิธีเดินทาง (รถสาธารณะ) JR・Kintetsu (Iseshi Station) ประมาณ 10 นาทีถึง
อาคารศาลเจ้าที่ชื่อว่า “โกะโชงู” ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่มีระดับสูงที่สุด
ในคุ (ศาลเจ้าด้านใน) ซึ่งเป็นสถานที่สักการะบูชาบรรพบุรุษของราชวงศ์แห่งประเทศญี่ปุ่น
สถานีที่ใกล้ที่สุด : UchiMiya-mae Station ( รถบัส )
วิธีการเดินทาง : นั่ง Mie Kotsu Bus จาก Kintetsu Ujiyamada Station ไปลงป้าย Naigu-mae ประมาณ 15 นาที (ที่มาการเดินทางจาก Matcha-jp.com)
มาเดินเล่นในย่ามช๊อปปิ้งย้อนยุคกันดีกว่าที่ Okage Yokocho ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าใกล้กับทางเข้าศาลเจ้าใน (Naiku) ของศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu)
2. อามะจัง ผู้หญิงแห่งท้องทะเลญี่ปุ่น
มาทานอาหารทะเลปิ้งย่างสดที่หมู่บ้านอามะซัง Amasankoya (หมู่บ้านที่ผู้หญิงมีอาชีพดำน้ำเก็บหอยใต้ทะเล) ที่เมืองโทบะ จังหวัดมิเอะ นอกจากจะได้ทานอาหารทะเลสดๆคุณภาพพรีเมี่ยมแล้ว ยังได้แต่งตัวสวยๆเป็นอะม่าซังด้วยน่ะ แต่งตัวเสร็จก็ถ่ายรูปเล่นแล้วมาเต้นรำวงแบบพื้นเมืองกับเหล่าอะมะซังกันอีก สนุกมากๆๆ เป็นอีกกิจกรรมที่ฟินและมีความสุขมาก อยากให้พวกเรามาลองกันดู ถ้ามีโอกาสแวะเวียนผ่ายมาแถวเกียวโต นารา โอซาก้าหรือนาโงย่า เผื่อเวลามาเที่ยวมิเอะดูบ้าง ที่นี่มีอะไรที่น่าสนใจและมีความสำคัญระดับท๊อปๆของญี่ปุ่นอยู่หลายอย่างเชียว ซึ่ง “อามะ” เป็นอาชีพที่มีมายาวนานกว่าสองพันปีแล้ว และปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่ในพื้นที่โทบะและชิมะ ในญี่ปุ่นมีผู้ประกอบอาชีพอามะอยู่ประมาณสองพันคน ซึ่งครึ่งหนึ่งล้วนอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตโทบะและชิมะ
ที่อยู่ : 819 Osatsu-cho, Toba, Mie Japan
Map Code : 338 498 155*25
แต่อีกทางเลือกโดยนั่งรถไฟมาลง Toba ด้วยรถไฟสาย Kintetsu แล้วนั่งแท๊กซี่มาต่อ อันนี้แต่แพงหน่อย
**** ทางเลือกสำหรับคนที่จะกับทัวร์ ลองดูที่นี่น่ะ http://amakoya.com ***
3.อุทยานแห่งชาติอิเซะชิมะ (Ise-Shima National Park)
สามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวโยโคยะมะ (Yokoyama Observatory) เพื่อชมวิวอ่าวอะโกะ (Ago Bay) จากมุมสูงที่สวยงามได้ แต่ต้องเดินขึ้นเขาไปหนักพอสมควรและกล้องแบตหมดเพราะดันไปทำหล่นที่หินแต่งาน เลยได้ใช้แต่ไอแพ่ดเก็บภาพมาฝากกัน เสียดายมากเพราะวิวจากจุดนี้จะเห็นอ่าวอะโกะที่สวยงามจริงๆ
ที่อยู่: 87 5-20 Agocho Ugata, Shima, Mie Prefecture 517-0501 JAPAN
Map Code : 338 276 367*28
4.เมืองอิงะอุเอโนะ (Iga-Ueno)
เมืองแห่งนินจา ที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น
นินจาได้แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลักๆ คือ อิงะ และ โคงะ ซึ่งในจังหวัดมิเอะนั้นเป็นนินจาฝ่ายอิงะ โรงเรียนนินจาชั้นนำในญี่ปุ่นยังมีอยู่อีกแห่งที่จังหวัดชิงะ ในช่วงศตวรรษที่ 15 เมืองนี้เคยเป็นสถานที่สอนวิชานินจามาก่อน อาจเรียกได้ว่าเป็นบ้านเกิดของนินจาในตระกูลอิงะ
หมู่บ้านนินจาอิงะ (Iga Ninja Museum) ประกอบด้วยบ้านพักอาศัยในอดีต ห้องแสดงนิทรรศการ 2 ห้อง สำหรับจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวกับการเป็นนินจา รวมถึงงานเขียนโบราณ พร้อมกันอาวุธนินจาประเภทต่างๆไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงหากใครอยากลองเป็นนินจาดูสักครั้งก็มีชุดนินจาให้เช่าและขายอีกด้วย
การเข้าชมโชว์นินจา
ค่าใช้จ่าย: 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 11:00-15:00 (โชว์ทุกๆชั่วโมง)
Map Code : 131 675 205*88
เราได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพได้เป็นกรณีพิเศษนะคะ แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปถ่ายรูปการแสดงไม่ได้เด้อ
5.ปราสาทอุเอโนะ(Ueno Castle)
ถูกสร้างขึ้นในสมัยปลายศตวรรษที่ 16 ใช้เป็นที่พักของขุนนางท้องถิ่นในสมัยเอโดะ (1603-1867) ตัวหอคอยของปราสาทถูกลมพายุทำลาย และได้มีการสร้างใหม่อีกครั้งประมาณปี 1935 จากเงินสนับสนุนของคนในท้องถิ่น ในการบูรณะตัวปราสาทนั้น ปราสาทอุเอโนะจะแตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีการใช้คอนกรีตในการซ่อมแซม แต่ปราสาทอุเอโนะนี้ได้เลือกใช้ไม้ทั้งหมดมาซ่อมปราสาท ทำให้ยังคงความดั้งเดิมของตัวปราสาทและให้ความสวยงามทั้งด้านในและด้านนอก รอบนอกของปราสาทนั้นเป็นกำแพงหินซึ่งกำแพงทางด้านตะวันตกเป็นกำแพงหินของปราสาทที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีก้ดวย มีความสูงกว่า 30 เมตร
ค่าเข้าชม:500 เยน
การเดินทาง เดิน 5 นาทีจากสถานรถไฟ Uenoshi
6. Toba Tenbodai จุดชมวิวริมทะเลเมืองโทบะ
Toba Observatory เป็นจุดชมวิวริมทะเลที่สวยงามขับรถเที่ยวชายฝั่งทะเลแถบนี้ยังไงก็ต้องแวะ และอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิว Yokoyama Observatory มาแล้วอย่าลืมแวะชิมซ๊อฟครีมรสกุ้งล็อบสเตอร์ด้วยน่ะ อากาศเย็นๆกินไอศครีมริมทะเลนี่มันฟินดีจริง
ที่อยู่ : 3 Kuzaki-cho, Toba, Mie Japan , 517-0031
Map Code : Mapcode: 338 620 814*00
7.นาบานะ โน ซาโตะ (Nabana no Sato)
นาบานะ โน ซาโตะ คือสวนดอกไม้ของ Nagashima resort ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองคุวานะ (Kuwana) ในจังหวัดมิเอะ ปรกติที่นี่นี้จะเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี แต่ว่าในช่วงฤดูหนาวของทุกปีเขาจะมีงานประดับไฟตอนกลางคืน ซึ่งเรียกว่า Winter Light Illumination ที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งเราจะชมกันได้ยาวๆตั้งแต่วันนี้ จนถึงเดือนพฤษภาคม ปีหน้ากันเลย และแน่นอนว่าจะเดินเที่ยวให้ฟินที่สุดก็ต้องมาช่วงหน้าหนาว ช่วงที่อากาศมันเย็นๆนี่ล่ะ
เวลาเปิดปิด : 09:00 – 22:00 (ช่วงหน้าหนาว)
เปิดไฟ ประมาณ 28:20
ค่าเข้าชม : 2300 เยน ซึ่งรวมค่าเข้าชม + กับค่าอาหาร
เป็นคูปองมูลค่า 1000 เยนครับ สำหรับใช้ในศูนย์อาหารภายในรีสอร์ท คุ้มมาก
ที่อยู่ : 270 Komae Urushibata, Nagashima cho, Kuwana city, Mie Prefecture, 511-1144 , Japan
Map Code : 38 894 380*74
8. หินแต่งงาน (Meoto Iwa)
ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักเดินทางต่างมาขอพรให้สมหวังเรื่องความรัก และเป็นจุดชมวิวพระจันทร์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆจากสถานี Nagoya ด้วยรถไฟ Kintetsu nagoya Express หรือ JR Rapid Mie ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
หินแต่งงานนี้ตั้งอยู่ในศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ (Futami Okitama Shrine) เป็นหิน 2 ก้อนอยู่ริมทะเล ก้อนหนึ่งเล็กอีกก้อนหนึ่งใหญ่ ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยเชือกฟากเส้นใหญ่ที่เรียก “ชิเมนาวะ” (Shimenawa Rope) ซึ่งดูเหมือนกับด้ายมงคลบนศีรษะคู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานตามตำนานหมายถึงคู่สามีภรรยาคือ เทพอซานาวิ (Izanagi no Okami) และเทพอิซานามิ (Izanami no Okami) ผู้สร้างสรรพสิ่งบนโลกและให้กำเนิดเทพต่างๆอีกมากมาย ใครที่เป็นโสดก็จะมาขอพรให้เจอเนื้อคู่ ส่วนใครมีคู่อยู่แล้วก็จะขอพรให้รักกันยืนยาวมีความสุขตลอดไป ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของคู่รักคู่แต่งงานในการมาขอพรกันอย่างมาก

มุมสวยๆให้เก็บภาพเยอะเลย
ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ย้อมสีซะเลย ^^ รปจากไอแพ่ดนะคะ เพราะแบตกล้องตกหายและไม่ได้เอากระเป๋ากล้องลงไปด้วย
ภาพจากโปสเตอร์ในบริเวรศาลเจ้า อยากเห็นบรรยากาศแบบนี้บ้างจัง
9. Mikimoto Island มิกิโมโตะ เมือง ToBa
Mikimoto Island มิกิโมโตะเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ในโทบะ จังหวัดมิเอะ ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของไข่มุกเลี้ยงและในปัจจุบันเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่มามิเอะ เกาะไข่มุกมิกิโมโตะเป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวไข่มุก การทำฟาร์มไข่มุก และมิกิโมโตะ โคคิชิ บุคคลแรกที่ประสบความสำเร็จในการเพาะไข่มุก เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในอ่าวโทบะที่มีสะพานเชื่อมเข้าถึง
ที่เกาะนี้คุณจะได้เห็นนักดำน้ำเก็บหอยผู้หญิงดำน้ำ (อามะจัง) ลงไปในทะเลเพื่อเก็บหอยและอื่น ๆ และคุณยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมิกิโมโตะ เช่นเดียวกับประวัติศาสตร์ของไข่มุก ที่นี่มีองค์ความรู้มากมายเกี่ยวกับไข่มุกเช่น ความแตกต่างระหว่างไข่มุกเลี้ยงและไข่มุกธรรมชาติ ความแตกต่างของสีไข่มุกและอื่น
การเดินทาง ตั้งต้นจากสถานีของ Kintetsu ที่ สถานี Osaka-Uehommachi (ติดกับห้าง Kintetsu สาขา Uehommachi) ขึ้นรถไฟขบวน Limited Express วิ่งตรงมาลงที่สถานี Toba ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
การแสดงดำน้ำของอามะจังที่เกาะไข่มุก เห็นการแสดงแบบนี้เดี๋ยวจะพาไปดูหมู่บ้านของอามะจังของจริงกันน่ะ
10. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ (Toba Aquarium)
ตั้งอยู่ริมอ่าวโทบะ ถัดจากเกาะไข่มุกมิกิโมโตะการจัดแสดงนั้นมีสัตว์น้ำมากกว่า 1,000 ชนิด อาทิปลาหลากสายพันธุ์ ปู แมงกะพรุน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สิงโตทะเลแมวน้ำ เป็นต้น และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำไว้มากที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นเพียงแห่งเดียวที่อนุรักษ์พะยูนเอาไว้ ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ การจัดแสดงสัตว์น้ำต่างๆทั้งโชว์สิงโตทะเล โชว์นกเพกวิน โชว์วอลรัส
รายละเอียดตามลิงค์ไปเลยจ้าา ==> http://www.aquarium.co.jp/english/
การเดินทางจาก Ise-shi Station โดยสารรถไฟ JR หรือ Kintetsu Line ลงที่ Taba Station (ใช้เวลา 15 นาที รถไฟ JR 240 เยน รถไฟ Kintetsu 330 เยน) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2,400 เยน, เด็ก 1,200 เยน, เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป 600 เยน
11. สวนสนุกชิมะหมู่บ้านสเปน Shima Spain Village
หรือ Shima Spain Mura หรือ Parque Expana เป็นสวนสนุกธีมพาร์คที่เป็นรูปแบบประเทศสเปน มีการออกแบบคล้ายกลับดิสนีย์แลนด์ ภายในมีเครื่องเล่นต่างๆ ไฮไลท์ที่เป็นที่สนใจคือการเต้นฟลามิงโก้ อันมีชื่อเสียง
การเข้าชม 4,900 เยน (one day pass รวมค่าเครื่องเล่นทุกชนิดไม่จำกัด)
เวลาเปิด-ปิด : 09:30-17:00 (ช่วงวันหยุดหรือฤดูแห่งการท่องเที่ยวจะเปิดนานกว่าปรกติ และช่วงโลว์ซีซั่นจะปิดเร็วกว่าปรกติ เช็คเวลาก่อนไปนะตะ)
การเดินทาง สถานีรถไฟที่ใกล้ สวนสนุกชิมะหมู่บ้านสเปนที่สุด คือสถานี Shima-Isobe Station ของรถไฟ Kintetsu Shima Line ซึ่งจะมีบัสบริการรับส่งถึงที่ จากสถานี Ise-shi Station เดินทางไปยัง Shima-Isobe Station โดยสารรถไฟด่วน (35 นาที 1,060 เยน) หรือรถไฟท้องถิ่น(50 นาที 550 เยน)
จาก Toba โดยสารรถไฟด่วน (20 นาที 890 เยน) หรือรถไฟท้องถิ่น(30 นาที 380 เยน)
หากมาจาก Nagoya, Osaka หรือKyoto สามารถนั่งรถไฟด่วนไปลงที่ Shima-Isobe Station ได้โดยตรง
Hotel Kintetsu Aquavilla Ise-Shima
Hotel Kintetsu Aquavilla Ise-Shima โรงแรมขนาดใหญ่ สวยอยู่บนเนินเขาและใกล้ทะเลสาบ แต่มาถึงค่ำแล้วยังไม่ได้เดินสำรวจเลย แต่ดูวิวจากมุมสูงแล้วสวยเชียว และอยากชิมอาหารเช้าว่าจะอร่อยเหมือนมื้อตอนเย็นไหม ที่นี่อยู่จังหวัดมิเอะค่ะ ใกล้ๆกับนารา เกียวโต มัตสึซากะ
ตอนไปพายุเข้าญี่ปุ่นเมื่อวานตอนเย็น เช้านี้จริงๆมีแปลนไปล่องเรือชมทิวทัศน์รอบๆแต่ฝนตกคงงดแล้วจะไปหมู่บ้านสเปนแทน ซึ่งก็สวยงามโอเคน่าเที่ยวเชียวล่ะ
ลิงค์ไปดูรายละเอียดของโรงแรมทางนี้จ้าาา ==> http://www.miyakohotels.ne.jp/aquavilla/english/
ที่อยู่ : 3238-1, Funakoshi, Daiou-cho, Shima City, Mie 517-0604, Japan
Map Code : 338 100 475*82
Facebook Comments