Jul-2016
Nook Dee Boutique Resort โรงแรมวิวสวยบนเนินเขาที่หาดกะตะ ภูเก็ต หนุกดี หรอยดีน่ะ
มีโอกาสแวะไปพักที่โรงแรม Nook Dee Boutique Resort ภูเก็ตมาพักใหญ่แล้ว (ขอเรียกเองกว่า “หนุกดี ” นะคะ จำง่ายดี) น่าเสียดายทีตอนไปอากาศไม่ดีมากๆ ฝนตกตลอดทั้งวัน มีช่วงเวลาให้ออกมาเก็บภาพนิดหน่อย และฟ้าสวยแค่ตอนที่ไปถึง นอกนั้นก็นอนฟังเสียงฝนในห้องไป 55555 (หัวเราะกลบเกลื่อนจริงๆแล้วเศร้า)
คนที่ไปเที่ยวช่วงหน้าฝนก็มีข้อดีและข้อเสียอยู่นะคะ ข้อดีแน่ๆคือเราจะได้ราคาที่พักที่ถูกกว่าปรกติ มีตัวเลือกให้ตรงกับความต้องการได้มาก คือเลือกช๊อปโรงแรมได้เลย ราคาจะถูกมาก นักท่องเที่ยวก็จะน้อยหน่อย ไม่แย่งกันกินเที่ยวเหมือนช่วงไฮ แต่ก็ต้องมีลุ้นกับสภาพฟ้าฝนลมอากาศกันหน่อย ถ้าไปเจอฝนเต็มๆ สำหรับคนที่ไม่ถ่ายรูปก็สบายไป คือนอนๆนั่งๆเล่นในห้องพักไป แต่สำหรับคนที่ถ่ายรูป มันคือเศร้า อิอิ แต่แม้จะไปเจอฝนเต็มๆแต่ก็ทำให้ได้อยู่พักภายในรีสอร์ทตลอด ฝนหยุดก็ออกมาเดินเก็บภาพด้านนอก ฝนตกก็ขอชมห้องอื่นๆเก็บตกภาพด้านในไป มันก็ไม่ได้แย่มาก เพียงแต่เราจะไม่ได้รูปบรรยากาศด้านนอกที่สวยเหมือนที่ตั้งใจไว้เท่านั้น ^^ และทริปนี้ฝนตกทุกวัน
การเดินทางไปหนุกดีทำได้ง่ายๆคือโรงแรอยู่บนเส้นรอบเกาะช่วงระหว่างกะตะและกะตะน้อย ทางไปหาดในหาน โรงแรมอยู่บนเนินฝั่งทะเล มีป้ายบอกทางหาง่ายค่ะ ถ้าขับรถไปเองก็มีที่จอดรถนะคะ หรือไม่ก็ต้องใช้บริการรถรับส่งของโรงแรมซึ่งสำหรับขาเที่ยวก็อาจจะไม่คล่องตัวซักเท่าไหร่
ล็อบบี้ของหนุกดี ดูดีมาก ให้บรรยากาศมาพักผ่อนริมทะเลมากเพราะผนังห้องเป็นกระจกและเปิดออกได้หมด ได้เห็นวิวทะเลเต็มๆกับสัมผัสลมทะเลพัดแรงๆมันอะโลฮ่ามากๆ ^^ แมสคอตของที่นี่คือพี่ช้างตัวโตที่นั่งรอต้อนรับเราอยู่ที่ล็อบบี้เลย และมีตกแต่งไว้ในห้องพักทุกห้องด้วย (ตัวโตมากน่ะเออ)
ชมภาพกลางวันในสภาพอากาศต่างๆกันบ้างนะคะ ทริปนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลยยยยยย
ฟ้าขาว ฝนตกหนัก สลับกับตกปรอยๆตลอดเลย แต่ก็เย็นสบายและได้ฟิลมาพักผ่อนดีเหมือนกัน
แต่พอฟ้าสวย อะไรๆมันก็สวยไปหมด
บรรยกาศด้านนอก รอบๆสระว่ายน้ำตอนกลางคืนสวยมากๆ น่าลงไปว่ายที่สุด
ขึ้นไปเก็บภาพจากชั้น 2-3 ของโรงแรม
อีกมุมนึงจากชั้น 2 มองลงมาสวยดีแฮ่ะ
ในยามที่ไม่ได้ออกไปไหน ก็เดินเก็บภาพบนชั้นสองของอาคารห้องพัก ก็ได้มุมหลากหลายดี
เดินเก็บภาพรอบระเบียงตึกเลย คือว่าง 555
มุมนั้นมุมนี้ เดินชมได้รอบเลย
ส่วนกลางของรีสอร์ททำได้ดี สระว่ายน้ำขนาดยาวยื่นออกไปกลางหุบเขาทำให้เห็นทะเลและทิวทัศน์อย่างสวยงามเลยค่ะ และเสียดายที่ไม่ได้ว่ายน้ำออกไปเก็บภาพมาฝาก (คงหิ้วกล้องออกไปไม่ได้แน่ อิอิ)
ห้องพักทุกห้องออกแบบคล้ายกันหมด หัวเตียงมีเอกลักษณ์ใช้ผ้าไทยมาตกแต่งสวยมากๆๆ คือเห็นปุ๊บรู้เลยที่นี่หนุกดี bed spread เป็นผ้าปาเต๊ะลวดลายของทางใต้ สวยมาก อยากได้กลับไปใช้ที่บ้าน หมอนอิงและช้างตัวโตประดับบนเตียงก็เป็นกิมมิคที่ทำให้คนจำได้ไม่ยาก การตกแต่งภายในห้องพักทำได้สวยงามและเป็นสัดส่วนลงตัวดีค่ะ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และไม้ไผ่สานทำให้มีฟิลเป็นรีสอร์ทมากขึ้น ผ้าม่านกรองแสงและโคมไฟเป็นผ้าลูกไม้สีขาว ตัดกับผนังปูนขัดที่ให้ความรู้สึกแข็งๆดิบๆ ทำให้โทนของห้องพักดูซ๊อฟท์หวานขึ้นทันตาเลย
ห้องที่นอนเป็นห้องแบบ Deluxe Panorama Corner ซึ่งเป็นห้องหัวมุม เราจะเห็นทะเลเต็มตาจากบนเตรียงนอนได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย ห้องมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ราว 39 ตรม.แต่ก็อยู่สบายไม่อึดอัด ยิ่งมีระเบียง มีกระจกที่เห็นวิวสองด้านแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าห้องใหญ่เลย
กลางวันก็สวยและโปร่งมาก
ห้องแบบ deluxe จะมีมินิบาร์และเดย์เบด ส่วน Superior ไม่มีตรงนี้นะคะ
ห้องพักแบบอื่นๆ ทั้ง Deluxe หรือ Superior จะเห็นว่าแทบไม่ต่างกันเลย ส่วนที่ต่างคือขนาดของห้องและตำแหน่งของห้อง เพราะฉะนั้นแขกที่มาพักที่นี่ก็จะไม่รู้สึกว่าห้องเราสวยน้อยกว่าห้องอื่นแน่ๆ เพราะเหมือนๆกันหมดเลย
ห้องนี้เป็นห้องแบบ Suprior เตียง twin bed ติดกันค่ะ
ห้องน้ำขนาดกำลังดี ไม่ได้รู้สึกคับแคบอะไร อาจจะเป็นเพราะเป็นกระจกเงาสะท้อนหลอกตาให้รู้สึกห้องกว้าง และเป็นกระจกใสทำให้มองทะลุออกไปที่เตียงและระเบียงห้องได้
ห้องนอนตอนกลางคืนก็สวยงามน่านอนน่ะ
ห้องแบบ Deluxe sea view (ห้องหลับดี) จะเห็นว่าตกแต่งเหมือนกันหมดเลย ใครพักห้องแพงห้องถูก ถ้าไม่มายด์เรื่องขนาดห้องหรือวิว เราว่ามันโอน่ะ คือดีเหมือนกัน ไม่ได้ต่างกันแบบฟ้ากับเหวเหมือนหลายที่
เก็บภาพห้องนอนมาให้ชมกันทุกมุมเลย จะได้มองภาพออกชัดๆว่ารอบห้องของที่นี่มันเป็นแบบไหน
ห้องพักมีอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำแยก อ่างล้างหน้า กระจกห้องใสแต่สามารถปิดม่านได้ ใครมากับเพื่อนก็ไม่ต้องเขิลกัน อิอิ
ชมห้องพักหลายๆแบบเริ่มตาลายว่าห้องไหนเป็นห้องไหน เพราะมันเหมือนกันหมดค่า
พี่ช้างตัวโต้โต แมสคอตของหนุกดี ฝรั่งหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องชอบแน่ๆ เป็นช้างสั่งทำพิเศษ ใส่เสื้อกั๊กลายเดียวกับหัวเตียงอีกต่างหาก สวยน่ะ ดีที่เค้าทำตัวใหญ่ เพราะถ้าทำตัวเล็ก รับรองมีหายแน่ๆ
ห้องนี้เป็นห้องแบบฝันดี Deluxe Jacucci ห้องมีขนาดใหญ่หน่อยคือ 46 ตรม. และมีความพิเศษคือเป็นห้องที่มีอ่างจากุซซี่อยู่ด้านนอกตรงระเบียง เรานอนแช่กันที่ด้านนอกนี้ได้เลย แค่จะไม่ได้วิวเปิดโล่งนะคะ เพราะมีต้นไม้มาบังอยู่บางส่วน แต่ก็ทำให้เราได้ความเป็นส่วนตัวหน่อย
อย่างที่บอกว่าการออกแบบตกแต่งห้องเหมือนกัน ไม่ให้ห้องราคาไหนน้อยใจกันเลย ต่างกันที่ขนาดของห้อง วิวและสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างที่เพิ่งขึ้นมาเท่านั้น
ห้องนี้ก็ชิลดีน่ะ ได้แช่อ่างด้านนอก ชอบๆ
ตรงทางเดินระหว่างห้องก็ยังสวย ประตูห้องทุกห้องวาดลวดลายต่างๆกัน
ห้องอาหาร Roy Dee (หรอยดี ภาษาใต้แปลว่าอร่อย) เป็นห้องกระจก โปร่งโล่งเป็นกระจกรอบด้าน ถ้าวันอากาศดีๆออกไปนั่งทานข้าวข้างนอก ได้ชมวิวไปด้วย เพลินเลยค่ะ
ราคาอาหารของที่นี่ก็จะกลางๆตามมาตรฐานราคาโรงแรมระดับนี้คือ 200-300 ++ โดยเฉลี่ย ซึ่งถือว่ารับได้ค่ะ ภูเก็ตค่าครองชีพสูง บะหมี่ผัดร้านในเมืองยังชามล่ะ 50-70 บาทเลยน่ะ
ฝนตก ไม่ได้ออกไปไหน ก็กินๆนอนๆอยู่ในรีสอร์ทนี่แหล่ะ กุ้งผัดพริกเกลือจานนี้อร่อย รสชาติดีไม่แพ้ร้านอาหารดังๆข้างนอกเลยน่ะ
ข้าวซอยเชียงใหม่อร่อยเข้มข้นมาก ก็ไม่แปลกใจเพราะพ่อครัวที่นี่เป็นคนเชียงใหม่เจ้า ตอนเห็นเมนูยังนึกในใจ มาเที่ยวทะเลภูเก็ต แล้วมีข้าวซอยทาน มันคืออะไร? ก็ลองสั่งดู อร่อยเกินคาดน่ะ แต่หมี่กรอบใหญ่เกินขนาดของชามไปหน่อยทำให้ทานยาก ถ้าเปลี่ยนชามให้ใหญ่ขึ้นจะทำให้ทานง่ายขึ้น อันนี้ฝากทางโรงแรมไว้ด้วยนะคะ ^^
ปีกไก่ทอด ทานกับส้มตำและน้ำจิ้มแจ่ว
แนะนำกล้วยหอมทอด ทานกับไอศครีมวานิลา เข้ากันมาก
ไปเจอฝนตลอดทริป ก็ต้องฝังอยู่อยู่ในโรงแรมสินะ 555 เลยได้ฝากท้องไว้กับห้องอาหารของโรงแรมกันทุกมื้อเลย และทานแตงโมปั่นทุกมื้อ ทุกโรงแรม อิอิ
ห้องอาหารสวยโล่งๆวิวดี
ผัดไทยไปไหนๆก็สั่ง
กุ้งทอดใบเล็บครุท เมนูภูเก็ตที่ทานกันตั้งแต่เด็ก
เมนูนี้อร่อยจนต้องพูดถึงเป็นพิเศษ เป็นห่อหมกทะเลเผา ที่ต้องพูดคือวิธีการเสริฟ์ไม่ธรรมดา เค้าจะห่อฟอลย์บนกระทะร้อน พนักงานถือมาเปิดห่อร้อนฉ่าๆๆแล้วเอาไข่ดิบลงไปคลุกเคล้าคนให้เข้ากัน น่าตื่นตาได้พอสมควร ส่วนรสชาติสำหรับคนไม่ทานรสจัดมากก็น่าจะชอบ เพราะมันอร่อยครบรส เพียงแต่ไม่เจ็บจี๊ดสำหรับคนทานรสจัดอย่างเรา อิอิ
เบื่อทานอาหารไทย ลองสั่งอาหารฝรั่งทานแก้เลี่ยนบ้าง (ไม่รู้อะไรเลี่ยนว่าอะไรกันแน่ อิอิ)
ข้าวมันปู ทานกับห่อหมกอร่อยดีน่ะ
วนเวียนอยู่แต่ในห้องอาหาร 5555
แต่จานนี้ไม่รู้เป็นข้าวผัดภูเก็ตตรงไหน อิอิ แต่รสชาติกลางๆทานง่ายค่ะ
ข้าวเหนียวมะม่วง ไปเจอมะม่วงเปรี้ยวไปซักหน่อย เสียดายจังเพราะเป็นเมนูขนมหวานที่ชอบมากๆๆ
ทานอาหารกันที่นี่ด้วยคือเรียกว่าฝากท้องกันทุกมื้อ ^^
ไลน์แบบพอประมาณ แต่ก็ค่อนข้างครบ ที่ชอบคือมีข้าวต้มกุ๊ยไว้ทานร้อนๆกับหมูหยอง เอาจริงๆแค่นี้พอน่ะ อิอิ
บรรยากาศวันที่ไปถึง ฟ้าใสได้แป๊บเดียวและแค่นั้นจริงๆ
สระว่ายน้ำสวย มุมขอบสระจะเห็นทะเลได้เต็มตา สวยมากๆ
สระน่าว่ายชะมัด
ขึ้นไปเก็บภาพบนดาดฟ้าโรงแรม ซึ่งตอนที่ไปเป็นหน้าฝน เค้ายังไม่ได้ตกแต่งพื้นที่เอาไว้ใช้งาน แค่เป็นลานโล่งๆกว้างๆกับเก้าอี้เอาไว้นั่งชมวิวสองตัว ใครที่กลับไปช่วงไฮปีนี้น่าจะเห็นความแตกต่างน่ะ
นาทีทอง ฟ้าสวยช่วงเดียวตลอดทริป ต้องรีบเก็บภาพ 5555 แต่ทำให้เรารู้ว่าแม้จะเที่ยวหน้าฝน อากาศมันก็ไม่ได้แย่ตลอดเวลาน่ะจ๊ะ ฟลุ๊คๆไปเที่ยวก็ได้ฟ้าใสทะเลสวยแบบนี้ก็ได้ แต่ที่แน่ๆค่าห้องถูกกว่าช่วงไฮมากๆ
ด้านบนดาดฟ้าของโรงแรม ตอนนี้เราขึ้นไปชมวิวได้เฉยๆนะคะ ยังไม่มีบาร์หรือมุมให้นั่งเล่นอะไร ทางโรงแรมคงรอให้ฝนซาแล้วถึงจะตกแต่งใช้งานอีกที
เมฆเริ่มมาแล้ว
วิวจากล็อบบี้ตอนฟ้าสวย มันสวยอยู่แล้ว นี่คือข้อดีของโรงแรมที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เราจะสามารถชมทิวทัศน์ในมุมสูงได้กว้างไกล สวยมากๆ ด้านหน้าตรงนี้น่าจะมีบีนแบ็คหรือเก้าอี้สนามให้ออกไปนั่งชมทิวทัศน์กันเนอะ เพราะมุมนี้ถือเป็นมุมที่เห็นวิวได้สวยที่สุด แต่อย่างที่บอก ช่วงที่ไปเห็นหน้าฝน จะตั้งจะวางอะไรก็คงไม่ได้ใช้งานซักเท่าไหร่ ต้องวิ่งจัดวิ่งเก็บกันไม่ไหวแน่ๆ เอาเป็นว่าใครที่จะไปพักที่นี่ช่วงหน้าไฮ น่าจะมีอะไรดีๆรอเราอยู่มุมนี้นะคะ
ประตูเข้าล็อบบี้ของโรงแรม บานใหญ่สวยงามมาก
อีกมุมของล็อบบี้
บริเวณสระว่ายน้ำ เชื่อมต่อกับล็อบบี้ได้สวยงามลงตัวน่ะ
ตัดภาพมาช่วงเวลาที่เหลือตอนอยู่โรงแรมกัน ….ฟ้าอากาศเป็นแบบนี้ตลอด บางช่วงฝนตกหนักมาก ออกจากห้องก็ไม่รู้จะไปไหนกันเลย
ฟ้าฝนไม่เป็นใจก็อย่าได้แคร์ ถ่ายรูปต่อไป ^^
ยังไม่เห็นทางโรงแรมใช้ประโยชน์จากมุมนี้เลย แต่ในอนาคตน่าจะทำอะไรดีๆและชิลมากแน่นอน เพราะบนดาดฟ้านี้เราสามารถขึ้นมาชมวิวได้ 360 องศากันเลย
กลางคืนถ้าฝนไม่ตกก็ชิลน่ะ ขึ้นมานั่งคุยเม้าท์มอยฟินอยู่ แค่รอมุมเครื่องดื่มและที่นั่งชิลกว่านี้แค่นั้นเอง
เดินเล่น ชมบรรยากาศโรงแรมยามฝนปรอย
เสียดายมากเพราะตั้งใจเก็บภาพพระอาทิตย์ตกงามๆจากบนดาดฟ้าและระเบียงห้องพักมาฝาก แต่เจอฝนทุกวันเลยค่ะ
ฝนตกก็ไม่ท้อ เดินเกาะราวตึกถ่ายรูปก็ได้ อิอิ
ชมนกชมไม้ชมฟ้าฝนและคน ….ก็ได้ ^^
แอบส่องหนุ่มๆ (ที่มาด้วยกัน แห้วน่ะจ๊ะสาวๆ อิอิ)
ระเบียงห้องพัก ซึ่งเป็นห้องมุม เลยเห็นวิวได้กว้างหน่อย
ฟ้าฝนแบบนี้ นอนดีมั้ย? ไปทะเลแล้วเจอแบบนี้มันสะเทือนใจ แต่เอาหน่ะ ถือว่าไปพักผ่อนเพราะถ้าอากาศดีฟ้าสวย เป็นอันไม่ต้องทำอะไรนอกจากวิ่งพล่านถ่ายรูปแน่ๆ
สรุป ……. ข้อดีและสิ่งที่ชอบ
1. โรงแรมขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก นั่นหมายถึงความพลุกพล่านที่ไม่วุ่นวายจนเกินไป
2. Nook Dee มีทั้งวิวภูเขาและทะเล
3. ห้องพักสวยมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไปแล้วจำไม่ลืมแน่นอน
4. สระว่ายน้ำสวย ส่วนกลางวิวดีมาก
5. ทำเลอยู่ถนนรอบเกาะ เดินทางเลาะเที่ยวหาดได้สะดวด
6. ห้องพักที่มีวิวพระอาทิตย์ตกจากระเบียงแบบเต็มตา
7. มีดาดฟ้าไว้ให้ขึ้นไปชมวิวทะเลอันดามันแบบพาโนรามา และบรรยากาศโดยรอบแบบ 360 องศา
8.ราคาที่ไม่แพงจนจับต้องไม่ได้ (รอโปรดีๆมาสามสี่พันก็มีนะคะ)
9. ที่สำคัญโปรโมชั่นจากงานท่องเที่ยวของที่นี่จะคุ้มมาก เพราะเคยเห็นเค้าให้ใช้ช่วงสงกรานต์ได้อีกต่างหาก แค่นี้ก็คุ้มสุดๆแล้วค่ะ
ความเห็นส่วนตัว ….
1.ไม่ค่อยชอบการออกแบบและสีสันของตัวตึกเท่าไหร่ รู้สึกไม่ค่อยโดน
2. เสียดายตำแหน่งของตัวอาคาร เพราะถ้าจับวางหันตึกใหม่ เราจะได้วิวของทะเลอันดามันในมุมกว้างแบบพาโนรามาเต็มตาพร้อมสนามและสระว่ายน้ำส่วนกลางเลย เพราะตอนนี้เหมือนตัวตึกห้องพักมันบังวิวทะเลของตัวเอง ทั้งๆที่อยู่ในตำแหน่งที่สามารถได้วิวเปิดกว้างได้
3. ตอนนี้เสียดายพื้นที่บนดาดฟ้าเพราะเป็นจุดที่เห็นวิวดีที่สุด แต่เชื่อว่าหน้าไฮนี้เค้าจะต้องใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้แน่นอน
==============================================================
ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นของ Nook Dee ได้ที่แฟนเพจของโรงแรมเลย ==> Nook Dee Boutique Resort ภูเก็ต
เวบไซต์ของโรงแรม Nook Dee Boutique Resort
ที่อยู่ : 216/9 โคกโตนด (เส้นกะตะ-ไสยวน) หาดกะตะ กะรน อ.เมือง ภูเก็ต
Tel : 076 688 888
Email : info@nook-dee.com
==============================================================
ติดตามรีวิวและทริปการเดินทางได้ที่แฟนเพจ ==> สะพายกล้องท่องเที่ยว by มาเรีย ณ ไกลบ้าน
IG : maria_na_klaibaan
ติดต่องาน : madamjib @hotmail.com
Tel : 0860909525