Mar-2017
ตามหาความฝันตามหัวใจเรียกร้องที่อินเลและพุกาม ประเทศเมียนม่าร์
พม่า = เมียนมาร์
เมื่อหัวใจเรียกร้องครั้งนี้เราสบตากันครั้งที่ 2 กับประเทศนี้ ไม่ว่าจะเรียกประเทศนี้ว่าอะไร แต่เชื่อสิว่า มันมีเสน่ห์ดึงดูดให้เราไปหามันซักครั้ง และความตั้งใจของทริปนี้คือไปทะเลสาบอินเลที่ฝังใจมานาน และไปชมทะเลเจดีย์ที่พุกามอีกสักครั้ง .. เอนทรี่นี้จะขอพูดถึงที่อินเลและพุกกามในภาพรวมก่อนล่ะกัน
การเตรียมตัว ….
ไม่มีอะไรมาก ตั๋วพร้อม ที่พักพร้อม กล้องพร้อม เมมพอชัวร์ไม่พอค่อยยืมเพื่อน หัวใจฮึกเหิมพร้อมจะเดินทางและแน่นอน >>> การประกันความเสี่ยงต้องมา เพราะทริปนี้เราแบกเป้เดินทางกันเอง ลุยแหลกตั้งแต่นอนบนรถทัวร์หลายช่วง ไหนขึ้นรถลงเรือ ปีนป่ายขึ้นเจดีย์และทานอาหารข้างทาง ไม่ได้ไปทัวร์นอนหรูห้าดาวพร้อมรถรับส่ง เพราะฉะนั้นอะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
พูดแล้วก็พูดเลยล่ะกัน ตั้งแต่ครึ่งปีหลังที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ชีวิตติดเทอร์โบเดินทางซอยขาถี่ยิบๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เดินทางไม่ต้องนับกันเลย ซึ่งแน่นอนว่าทุกทริปเราต้องวางแผนการเดินทางเป็นอย่างดี นอกจากตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และโปรแกรมการเดินทาง ประกันภัยเดินทางเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆน่ะ (ถ้าไม่เจอไม่รู้สึกจริงๆน่ะ) สำหรับคนที่เดินทางไม่บ่อย ก็ซื้อเป็นทริปๆไปได้ค่ะ ค่าใช้จ่ายไม่มากขึ้นอยู่กับจำนวนวันและประเทศที่เดินทางไป เริ่มต้นแค่ไม่กี่ร้อยบาทแต่ซื้อความอุ่นใจปลอดภัยหายห่วงให้กับตัวเองและคนทางบ้าน มันดีกว่าแน่นอน
ทริปนี้เดินทางไปกับเพื่อนอีก 2 คนตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งเรามีประกันรายปีกับ MSIG (เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย) อยู่แล้ว จ่ายแค่ปีล่ะสามพันกว่าบาท (ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อ) คุ้มครองชีวิต 1.5 ล้าน รักษาพยาบาลระหว่างอยู่ตปท. 2 ล้าน เคลื่อนย้ายเพื่อรักษาพยาบาลฉุกเฉินหรือกลับไทย 2 ล้านบาท มียกเลิกการเดินทางอีก 200,000 บาท เที่ยวบินล้าช้าอีก 10,000 บาท ตกเครื่องอีก 5,000 บาท ไหนจะเอกสารสูญหาย เครื่องบินล่าช้า กระเป๋าหายหรือล่าช้า (แต่ไม่อยากใช้หรอกน่ะ อิอิ) ครอบคลุมสารพัดทุกความเสี่ยง แต่จ่ายขั้นเริ่มต้นมันก็ไม่ได้คุ้มครองทุกเรื่องนะคะ เอาเป็นว่ามันจำเป็นมากสำหรับคนเดินทางทุกคน ซึ่งตอนนั้นเรามีแล้วแต่เพื่อนร่วมทริปยังไม่มีประกัน ก็ต้องหาซื้อกันแบบปุบปับก่อนเดินทางเลยเพราะไม่ใช่ทุกที่จะรับประกันสำหรับเดินทางไปเมียนม่าร์ ซึ่งเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีที่สุด คุยกันปุ๊บซื้อออนไลน์กันปั๊บ เดินทางกันวันนั้นเลย
โชคดีทำประกันรายปีกับ MSIG ไว้อยู่แล้ว สบายไป
พูดเรื่องประกันการเดินทางแล้วต้องคุยกันยาวเลย ทั้งๆแต่ก่อนแม้จะเดินทางมากก็ไม่ค่อยได้คำนึงถึงเรื่องนี้เท่าไหร่เพราะคิดว่าโอเคน่า ไปแป๊บๆไม่เป็นไรแน่ๆ อย่างคราวที่ไปฝรั่งเศสปีก่อนโน้น ก็ไปวิ่งหกล้มได้เลือดในทุ่งลาเวนเดอร์ที่โพรว๊องซ์ ย้ายไปเมือง Avigon ก็ไปแพ้อะไรไม่รู้เป็นผื่นลมพิษหนักเลย เอายาหม่องหรืออะไรไม่รู้ทาประทังไปก่อน แล้วถ้าเป็นมากจะทำยังไงกัน? ญี่ปุ่นปีที่แล้วไปคนเดียวก็ดันไปแพ้อาหารจนต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่นากาโน่ เพราะฉะนั้นทำประกันไว้มันอุ่นใจกว่าแน่นอน สำหรับคนที่ต้องเดินทางต่างประเทศบ่อยก็แนะนำให้ทำเป็นรายปีจะดีกว่า ทำครั้งเดียวคุ้มครองไปเลยปีนึงถูกกว่าด้วย อ้อ การขอวีซ่าบางประเทศหรือเชงเก้นจำเป็นต้องมีประกันการเดินทางถึงจะยื่นวีซ่าได้นะคะ ซึ่ง MSIG การันตีว่าถ้าไม่ผ่านเค้าคืนเงิน 100% เลยน่ะ
เรื่องแบบนี้ไม่เกิดเราไม่รู้ ป้องกันไว้ดีกว่าแน่นอนค่ะ คนที่สนใจก็ดูรายละเอียดหรือซื้อออนไลน์ได้เลยที่ www.msig-thai.com อ้อ ตอนนี้มีโปรโมชั่นแจก Starbucks เริ่มตั้งแต่ 1 ก.พ. – 30 เม.ษ. ด้วยน่ะ รายเที่ยว เบี้ยตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป/ท่าน รับบัตรสตาร์บัคส์ 100 บาท เบี้ยตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป/ท่าน รับบัตรสตาร์บัคส์ 200 บาท สำหรับรายปี ทุกแผน รับบัตรสตาร์บัคส์ 500 บาท/ท่าน ด้วยนะคะ
เอาเป็นว่าไม่ซื้อไม่ว่าไม่เป็นไร ติดขัดหรือมีข้อสงสัยประการใดก็ลองโทรปรึกษากับ MSIG ประกันภัยกันก่อนเพื่อความอุ่นใจกันได้นะคะ ที่ ==> www.msig-thai.com เพราะ MSIG ประกันภัย เป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยวินาศภัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมให้บริการประกันวินาศภัยทุกประเภท เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทางต่างประเทศ ประกันภัยอุบัติเหตุ ประกันภัยทรัพย์สิน ประกันภัยขนส่งทางบก ทางอากาศและทางทะเล รู้แบบนี้แล้วรับรองว่าเราพร้อมลุยทุกทริปด้วยความอุ่นใจแน่นอน
Myanmar here I come once again ^^
ทริปนี้เราบินกับแอร์เอเซียมามัณฑะเลย์ เค้ามีบินวันล่ะ 2 เที่ยว ราคาโปรโมชั่นไปกลับสามสี่พันบาทถูกกว่าสมุยหรือภูเก็ตซะอีก ถ้าเราเลือกเวลาวางแผนการเดินทางดีๆ เราเที่ยวต่างประเทศได้ไม่แพงเลยน่ะ
เอาล่ะบินมาถึงมัณฑะเลย์กันแล้ว เอาแบบสั้นๆง่ายๆแบบบรีฟก่อนเลยสำหรับคนที่บินมาลงมัณฑะเลย์แล้วจะพุ่งไปอินเลโดยที่ไม่ค้างเหมือนเราแต่อยากเที่ยวรอบเมืองก่อนคือขึ้น shuttle bus เข้าเมืองคนล่ะ 3 USD หรือเหมาแท๊กซี่ไปสถานีรถบัส 12,000 จ๊าด ถ้าอยากให้เค้าขับพาเที่ยวรอบเมืองครึ่งวันก็จ่ายเพิ่มอีกแค่ 25,000 จ๊าด ซึ่งคุ้มมาก มากันหลายคนหารกันแล้วเหลือคนล่ะไม่กี่บาท ก็บอกให้เค้าพาเราไปจุดท่องเที่ยวที่สำคัญก่อนจะพาเรามาส่งที่สถานีรถบัสเพื่อนั่งรถนอนไปอินเลกัน
เรทตอนนั้น 1 USD = 1163 จ๊าด
** ราคาค่ารถอ้างอิงจากตอนที่ไปเดือนสค.ปีที่แล้วนะคะ **
ถึงพม่าจริงแท้แน่นอนจ๊ะ
บอกแล้วว่าตัดตอน (คือตัดมัณฑะเลย์ออกก่อน 555) วาร์ปมาที่อินเลกันเลยดีกว่า แต่ก่อนไปอินเล เรามานั่งรถทัวร์นอนเล่นกัน ซึ่งสนุกได้รสชาติมาก เราใช้บริการรถบริษัทินี้ค่ะ High Grade Express VIP bus ที่เลือกมีเหตุผลเดียวคือแท๊กซี่ที่พาเรามาบอกว่ามันดี ^^ ซึ่งมันก็ดีน่ะ
รถของเราคันเขียวนี่เลย ค่ารถ 14,500 จ๊าด หรือประมาณ 420 บาท ต่อคน เป็นรถ VIP ชั้นหนึ่งเลย มีปลั๊กให้เสียบชาร์ตแบต มีน้ำให้ มีชุดแปรงสีฟัน ผ้าห่ม ที่วางเท้า พนักวางแขนอะไรต่ออะไรใช้ได้เลยค่ะ
ระยะทางจากมัณฑะเลย์ไปยองชเว ประมาณร่วม 300 กม. ออกจากมัณฑะเลย์ทุ่มครึ่ง ไปถึงยองชเวประมาณตี 4 ครึ่ง มีจอดหลายจุดเหมือนกันซึ่งอย่าถามว่าที่ไหน เพราะไม่รู้จริงๆ 5555 เอาเป็นว่านอนหลับๆตื่นๆฟังเพลงไปอะไรไปก็ถึงล่ะกัน ^^
ทริปนี้เราพักที่ Novotel Inle Lake Myat min โรงแรมหรู 4 ดาวริมทะเลสาบจากเครือ Accors เครือโรงแรมคุณภาพที่ไว้ใจได้ เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าคืนนี้พวกเรานอนหลับฝันดีลืมตื่นไปล่องเรือกันแน่ 5555 ซึ่งโรงแรมโนโวเทล อินเลนี้อยู่ระยะทางห่างจากตัวเมืองยองชเว (Nyuangschwe) ประมาณ 13 กม. ซึ่งไกลพอสมควร เราเหมารถตุ๊กๆสามสี่ล้อไปโรงแรมในราคาที่ต่อแล้วต่ออีกสุดท้ายก็ต้องยอมที่ 17,000 จ๊าด (ประมาณ 500 บาท ต่อ 3 คนเรา ตกคนละ 170.-) ซึ่งถือว่าแพงเอาเรื่องน่ะ แต่เราไม่มีทางเลือกมากนักเพราะไปถึงก็ตีสามตีสี่ เลยต้องจำใจจ่ายให้เค้าพาไปส่งที่โรงแรม (ด้วยความระแวงกลัวจะโดนหลอก 555)
อ้อ ใครที่มาเที่ยวอินเล แล้วมีคนจู่โจมเข้ามาเรียกเก็บเงินอะไรก็อย่าเพิ่งตกใจน่ะ เพราะการเข้ามาในเขตเมืองนี้ (พุกามก็ด้วย) นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าเมืองคนล่ะ 12,500 จ๊าด หรือประมาณ 365 บาทต่อคน คล้ายๆกับที่ของเราเก็บค่าเข้าอุทยานแห่งชาติหรือเขตอุทยานประวัติศาสตร์นั่นล่ะ
ล็อบบี้จะสวยไปไหน คือโรงแรมสวยมากกก!! นั่งรถมาปุเรงๆมาถึงเช้ามืด แล้วเหมาสามล้อมาส่งที่โรงแรม ภาพแรกที่เห็นก็ปังอย่างนี้เลย สวรรค์ของช้านนนนน ขอวิ่งเข้าห้องนอนเตียงนุ่มก่อนได้มั้ยเนี่ย 555
โนโวเทล อินเล นี่น่าจะเป็นโรงแรมสี่ห้าดาวแห่งเดียวของเมืองนี้ล่ะมัง
ออกแบบตกแต่งได้โปร่งโล่งสบายตา รับลมรับวิวได้ดีมากเลย
ห้องอาหารใหญ่โตอลังการเว่อร์วังมาก
การเดินทางมาที่นี่ทำได้สองทางคือ นั่งรถตุ๊กๆมาหรือนั่งเรือมาก แน่นอนว่าที่พักติดทะเลสาบแบบนี้ เราสามารถเข้าออกได้โดยทางเรือ (ซึ่งข้าพเจ้าเป็นคนกลัวน้ำเล็กน้อยถึงปานกลางมีเสียวนิดๆน่ะ)
โอ๊ยยยย วิว …. เรียบหรูร้อยล้านมาก
มาดูห้องพักกัน ห้อง type นี้เป็นห้องพักขั้นเริ่มต้นน่ะ แต่ดีงามหรูเริ่ดได้ขนาดนี้ ที่สำคัญเตียงดูดวิญญานแถมปลอดภัย นอนหลับสบายแน่นอน คือทั้งทริป มีที่นี่แหล่ะ สวรรค์น้อยๆของเรา นอกนั้นนอนหลักร้อยเอาแค่พอนอนได้พอ ก็อินเลมันในฝันนี่หน่า อะไรๆมันต้องดีสิเนอะ ^^
ห้องน้ำกว้างมากก
มีอ่างให้แช่ด้วย
ห้องใหญ่มากๆ เล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดในห้องได้เลยล่ะกัน ^^
สระว่ายน้ำดีงามวิวสวยมาก มองไปไกลๆจะเห็นทะเลสาบอินเลอยู่ลิบๆ (พูดซะเหมือนอยู่ไกล แต่จริงๆแล้วมันใกล้แค่คืบนี่เอง อิอิ)
พูลวิลล่าเป็นหลังๆโซนนี้ไม่ได้แอ้มเราหรอก เพราะสำหรับพวกเรา ห้องพักแบบดีลักซ์ที่นอนกันก็สมฐานะกันแล้ว 555 แต่ใครที่ต้องการความชิลถึงขีดสุด แนะนำเลยน่ะ ห้องสวยพร้อมสระส่วนตัวไม่ว่า แต่วิวด้านหน้าห้องพักนี่สิ ฟินมากก!
ห้องสวยมากๆ
ห้องพักแบบพูลวิลล่า สวยงามเลอค่าน่าเป็นเจ้าของซักคืนสองคืนจริงๆ ถือเป็นตัวเลือกระดับท๊อปสำหรับคนที่จะมาเที่ยวทะเลสาบอินเลกันเลยนะคะ
ชุดนอนจากบนรถกันเลย ^^
มุมนี้ต้องมาชมพระอาทิตย์ตกกัน
ที่เห็นคือ Novotel Inle lake Myat Min ยกแผงเลย สวยป่ะล่ะ
ค่าเรือเหมาเที่ยวนี่ก็มีหลายราคาแล้วก็อยู่ที่ว่าเราตกลงกันได้ที่เท่าไหร่ เราติดต่อผ่านพนักงานโรงแรมได้ราคามาที่ครึ่งวัน 20 USD หรือเต็มวันที่ 35 USD ก็แล้วแต่จะตกลงกันน่ะ คิดเป็นเงินไทยก็ไม่แพงมาก พอๆกับเหมาเรือเที่ยวที่บ้านเรานั่นแหล่ะ
มุมนี้สวยทั้งกลางวันกลางคืน
สนใจจองที่พักที่โนโวเทล อินเล ก็สามารถคลิกไปดูรายะเลียดได้ที่นี่ ==> Novotel Inle Lake Myat Min
อยู่กับน้ำก็ต้องนั่งเรือเที่ยวสิ ชมทิวทัศน์ไปสองฝั่งทะเลสาบไปเรื่อย สบายตาสบายอารมณ์ดีจริง
วิถีชีวิตรอบทะเลสาบอินเล รัฐฉาน ประเทศพม่า
ผู้คนที่นี่ยังกินอยู่และดำรงชีพกับสายน้ำแม้การท่องเที่ยวจะเป็นรายได้หลัก การเดินทางมาไม่ยาก บอกไปแล้วด้านล่าง ที่พักมีให้เลือกมากมายหลายราคา ถ้าต้องการโรงแรมเชนที่มีคุณภาพมาตรฐาน อินเลมีแค่ Novotel อินเลนะคะ มานี่ต้องนั่งเรือชมทะเลสาบและจุดท่องเที่ยวสำคัญ ค่าเรือ 20++ เหรียญต่อลำสำหรับครึ่งวัน เต็มวัน 35++ นั่งได้ 4-5 คนเต็มที่ เราไปกัน 3 สบายๆโล่งๆดี ใครจะมาเที่ยวก็เตรียมครีมกันแดด เสื้อฝา ร่ม หมวกมาด้วยเพราะนั่งเรือร้อนมาก แต่บางที่เค้ามีร่มกับเสื้อฝนบริการ
เป้าหมายของทริปนี้ก็นี่เลย …ชาวประมงที่พายเรือด้วยขา เอกลักษณ์ของชาวประมงที่อินเล ที่เราเห็นภาพมาจนอยากมาเห็นของจริง …. มาถึงแล้วสิน่ะ !
วิถีชาวประมงอินเลต้องพายเรือด้วยเท้า ซึ่งเป็นเสน่ห์และมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ดึงดูดนักท่องเทียวมาชมจากทั่วโลก ลองมาเห็นซักครั้ง แล้วค่อยไปเที่ยวที่อื่นก็ได้น่ะ ฟืนอยู่ ^^
บางรูปเป็นชาวประมงจัดจ้าง ใครพอรู้บ้างว่ารูปไหน อิอิ แต่ที่เราเห็นกันจริงๆแบบชาวประมงแท้ตามวิถีธรรมชาติของเค้าก็ยังพอหาได้นะคะไม่ต้องนอยด์กันว่าไปแล้วจะไม่เจอ เพียงแต่เราไม่ต้องออกไปตามหา เค้าจะมาโชว์ให้เราดูก็แค่นั้น จริงๆนักท่องเที่ยวหรือตากล้องอย่างพวกเรานั้นแหล่ะเป็นคนสอนเค้าเองว่าเค้าจะได้เงินจากการจัดจ้างมาเป็นนายแบบ เค้าเลยเรียนรู้ว่า ไม่ต้องพายจริงกันล่ะ เดี๋ยวนักท่องเที่ยวก็มาจ้างเค้าพายเองอยู่ดี ซึ่งตรงนี้ว่ากันไม่ได้จริงๆ
นั่งเรือเที่ยวชมทะเลสาบอินเลกันสองวันเต็มกันเลย
ทะเลสาบอินเล เมืองยองชเว(Nyaungshwe) มีพื้นที่อยู่ห่างจากเมืองตองจี หรือตองยี (Taunggyi) ซึ่งเป็นเมืองหลวงประมาณ 20 กม. ภายใต้เขตพื้นที่ของรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดของประเทศพม่าคือ รัฐฉาน (Shan State) ….. เรามาถึงรัฐฉานอันโด่งดังแล้วสินะ แต่น่าเสียดายที่เราไม่มีเวลามากพอที่จะไปเที่ยวชมเมืองตองจี เพราะอีกวันต้องนั่งรถบัสเข้าพุกามกันเลย
ท่าเรือที่เมืองยองชเว
ฟ้าฝนเป็นใจดีจริง
น้องวัยรุ่นพม่าหน้าตาสดใสน่ารักเชียว
ส่วนนี่เพื่อนร่วมทริปตัวแสบที่ติสต์แตกทั้งคู่ 5555 (ขอบคุณที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อนกันน่ะ)
การเดินทางจากเมือง Nyuang Schwe (อินเล) ==> พุกาม
เรารถไนท์บัสของ JJ Express จาก Nyuang Schwe ไปพุกาม 19000 จ๊าด/600 บาท ต่อคน รถออกสองทุ่ม แต่ครบแล้วออก เป็นรถ VIP first class 2+1 ที่นั่ง/แถว มีอาหารเย็นให้ สภาพรถถือว่าดี นอนข้ามคืนแบบนี้ได้ประหยัดค่ารร.ไปอีกคืน ไปถึงพุกามเช้ามืดก็เที่ยวต่อได้เลย
เค้าเพิ่งแวะให้ทานอาหารเย็นซึ่งเลือกระหว่างบะหมี่แบบจีนหรือบะหมี่แบบรัฐฉาน อันที่ทานเป็นบะหมี่จีน รสชาติพอรับได้ ร้านอาหารใหญ่สะอาดดีเลย ห้องน้ำก็ดีกว่าที่คิด อากาศแถวนี้เย็นสบายจนต้องใส่เสื้อคลุม อ้อ ผู้โดยสายเป็นฝรั่งเกือบทั้งคัน มีเอเซียอยู่สีคนเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด โดยรวมถือว่าโอเคเลย
JJ Express จากเมือง Nyuang Schwe (อินเล) ไปพุกาม
ทะเลเจดีย์ พุกาม อีกครั้ง
นั่งรถบัสมาถึงพุกามตี 3 ครึ่ง เหมาแท๊กซี่ไปเจดีย์ชเวซันดอว์เพื่อชมพระอาทิตย์ข้ึนกันก่อนเลย ไปรออยู่นานจนระแวงกลัวแท๊กซี่พากระเป๋าเราหนี 555 อ้อ ก่อนเข้าเมืองพุกาม เราต้องจ่ายค่าเข้าเขตโบราณสถาน (Archeology) คนล่ะ 25000 จ๊าดก่อนน่ะ บัตรนี้เอาไว้เข้าชมเจดีย์ต่างๆที่เก็บเงินด้วย รวมทั้งชเวซันดอร์ ด้วย
เราเหมาแท๊กซี่จากท่ารถให้พาเที่ยวตั้งแต่ชมพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกวันล่ะ 50 USD เค้าก็พาเที่ยวตามที่เราต้องการ ซึ่งคุ้มมากๆ เจดีย์ชเวสิกองตอนนั้นปิดซ่อมแซม วัดอนันดา วัดมนูหา ไม่ซ่อมมาเที่ยวได้เลย เมื่อวานแวะไปหลายวัดมาก จำชื่อไม่ค่อยได้ เดี๋ยวมาไล่ชื่อกันอีกที
อาหารพม่าติดมันๆเค็มๆ และไม่ถูกเลย ถ้าทานร้านที่ไม่ใช่ร้านคนท้องถิ่น อาหารจานล่ะเป็นร้อยอัพหมด ทริปนี้หมดค่ากินกับค่าเดินทางเยอะมาก ส่วนที่พักไม่แพงน่ะ พุกามนอนคืนล่ะ 900 บาทมีวิวทุ่งเจดีย์ให้ชมบนดาดฟ้าอีกต่างหาก
อ้อ ตอนไปไม่มีบอลลูนนะคะ เป็นช่วงโลว์ เค้าจะขึ้นช่วงหน้าไฮปลายปีตั้งแต่ตค.ถึงมีค. ซึ่งก็เกือบจะหมดเดือนมีค.แล้ว คนจะไปก็ต้องรออีกทีเดือนตค.กันเลย รูปที่มีบอลลูนเป็นรูปจากทริปก่อนจ้าา
*** เก็บภาพบรรยากาศโดยรวมมาฝากกันเป็นก้อนล่ะกันเนอะ ***
แต่งสีเล่นๆ ถ้าใบไม้เปลี่ยนสีได้ก็ดีเนอะ :-p
2 เพื่อนร่วมทริปเจ้าของเพจท่องเที่ยวดัง แบกเป้เท่ทั่วโลก และ เที่ยวตามทำนอง/Forzanu กับหนึ่งคนขับรถและไกด์ (คนกลางในรูป) ที่พาเราตระเวณเที่ยวในพุกามอย่างเป็นกันเองและไว้ใจได้ พูดภาษอังกฤษได้พอสื่อสารได้ ถ้าสนใจลองคุยดูน่ะ เฟสบุ๊คเค้าอันนี้เลย ==> เฟสบุ๊คของไกด์และคนขับรถเหมาเที่ยวพุกาม ชื่อจ๊อกกุง มีเพจด้วยน่ะ อันนี้เลย ==> Warmly welcome taxi service
พุกามนี่มันสวรรค์ของคนถ่ายรูปจริงๆ
การเดินทางจากพุกาม ==> มัณฑะเลย์
เรานั่งรถทัวร์บริษัทิ Moe Thout Htun aircon express ออกจากพุกามตั้งแต่ 9 โมงเช้า นั่งรถประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึงมัณฑะเลย์ ออกจากที่โน้น 9 โมง มาถึงบ่ายโมงพอดีเป๊ะ รถยี่ห้อนี้บริการดีมาก เค้ามารับเราที่โรงแรมในพุกามและมาส่งถึงโรงแรมในมัณฑะเลย์เลยน่ะ ไม่ต้องจ่ายค่าแท๊กซี่เพิ่มด้วย ดีงามมาก แถมมีรถสองแถวมารับที่โรงแรมที่พุกามไปสถานีด้วย ราคาแค่ 9000 จ๊าด เป็นรถคันเล็ก ไม่มีอะไรพิเศษ ปรับเอนนิดหน่อย แต่นั่งระยะทางสั้นๆก็โอเคเลย
นั่งรถทัวร์ของบ. Moe Thout Htun aircon express จากพุกาม กลับไปมัณฑะเลย์
ระหว่างทางก็เหมือนรถทัวร์บ้านเราคือจอดแวะให้ทานอาหารกันก่อน เลยสั่งอาหารทานชุดล่ะ 2000 มีข้าว 1 จานกับกับข้าว 4 อย่าง แต่หมดนี่ 4000 จ๊าด มีหมูไก่อย่างล่ะถ้วยนอกนั้
โอ๊ยยย มันอร่อยมาก!!
อาหารพม่า ติดมันติดเค็มน่ะ หลายอย่างแปลกๆแต่หลายอย่างในรูปทานได้ แถมอร่อยมากด้วยน่ะ อาหารเป็นถ้วยเล็กๆเค้าเสริ์ฟทานกับข้าว คนล่ะ 4 อย่างกับข้าว 1 จาน เคยทานชุดล่ะ 2000 จ๊าด ร้านธรรมดาๆ คนที่ทานง่ายน่าจะรอด แต่คนทานยากอาจไม่คุ้นลิ้นน่ะ แกงไก่อร่อยทุกร้าน พริกตำเผ็ดอร่อยมาก อันนี้แหล่ะที่ว่าเด็ด ซื้อกลับบ้านมาด้วย ^^ ส่วนอาหารตามโซนนักท่องเที่ยวถือว่าค่อนข้างแพง ราคา 4000 จ๊าดอัพทั้งนั้น
สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้ (ลอกเพื่อนมา 555) ประมาณตัวเลขกลมๆประมาณนี้ค่ะ
– แท๊กซี่เข้าเมืองมัณฑะเลย์ / 12,000 จ๊าด = 350 หาร 3 = คนละ 120
– แท๊กซี่ครึ่งวันเหมาเที่ยวมัณฑะเลย์ / 25,000 จ๊าด = 750.- หาร 3 = คนละ 250
– ค่าเข้าพระราชวังมัณฑะเลย์ / คนละ 10,000 จ๊าด = คนละ 300
– รถบัสมัณฑะเลย์ – ยองชเว / คนละ 14,500 จ๊าด = คนละ 420
– เหมาสามล้อจากท่ารถยองชเวไปโนโวเทล / 17,000 จ๊าด = 500.- หาร 3 = คนละ 170
– ค่าธรรมเนียมเข้าเมืองยองชเว / คนละ 12,500 จ๊าด = คนละ 365
– ค่ารถบัสจากยองชเว – พุกาม / คนละ 19,000 จ๊าด = คนละ 560
– ค่าธรรมเนียมเข้าเมืองพุกาม / คนละ 25,000 จ๊าด = คนละ 730
– แท๊กซี่เต็มวันเหมาเที่ยวพุกาม / 50 เหรียญ = 1,700 หาร 3 = คนละ 570
– รถบัสจากพุกามกลับมัณฑะเลย์ / 9,000 จ๊าด = คนละ 260
– แท๊กซี่เหมาจากโรงแรมในมัณฑะเลย์ไปสนามบิน / 12,000 จ๊าด = 350 หาร 3 = คนละ 120.-
– ที่พัก Sky View Hotel ที่พุกาม / 27 เหรียญ ต่อห้อง (นอน 2 ห้อง) = 940 x 2 = 1,880 หาร 3 = คนละ 630
– ที่พัก Hotel Iceland ที่มัณฑะเลย์ / 20 เหรียญ ต่อห้อง (นอน 2 ห้อง) = 700 x 2 = 1,400 หาร 3 = คนละ 470
ค่าใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่ 4,965 บาท
*** ค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่รวมค่าอาหาร ค่าขนม ซื้อของส่วนตัว และค่าเรือเที่ยวที่อินเล ค่าห้องที่โนโวเทล อินเล และตั๋วเครื่องบินไปกลับมัณฑะเลย์นะคะ ***
อย่างที่บอก ทริปพม่าเอาจริงๆค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางของแต่ล่ะคนนี่ไม่น่าจะต่างกันมากเพราะใครมาก็น่าจะจ่ายพอๆกัน ค่าเหมารถหรือรถบัสก็ราคาก็ตามนั้น แต่ตัวแปรที่ทำให้ค่าใช้จ่ายของเราต่างกันก็คือตรงที่พักนี่แหล่ะ จะนอนดีหรือธรรมดาขนาดไหน จะจ่ายมากว่า หรือจ่ายน้อยกว่ามันก็อยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นเราลองเอาไปปรับดูให้เหมาะกับเราได้เลยนะคะ
***
แถม …. บะหมี่รัฐฉาน ทานได้โอเคเลย สั่งไม่เป็นก็ชี้ๆดูตามเมนูหรือไม่ก็ดูโต๊ะข้างๆเค้าสั่งกันก็ได้ แต่ในมัณฑะเลย์ คนพม่าพูดไทยได้เยอะเลยน่ะ ไม่ต้องกลัวอดจ้า สบายมาก
