Feb-2017
จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น …. จังหวัดนี้ดีต่อใจ
จังหวัดมิเอะ – Mie Prefecture
ประเทศญี่ปุ่นน่าเที่ยวทุกภูมิภาค หลายเมืองเป็นที่นิยมของคนไทยเป็นอย่างมาก หลายจุดเดินไปไหนเจอแต่คนไทย ในห้างสรรพสินค้าร้านค้าเล็กใหญ่ก็มีประกาศภาษาไทย สำหรับคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกๆแน่นอนว่าอาจจะไม่รู้จักหรือนึกถึงที่นี่มากนัก แต่จะบอกว่าจังหวัดนี้มีดีมากมายจนไม่อยากให้พวกเรามองข้ามไปจริงๆน่ะ … เพราะมิเอะ เจ๋งมากอ่ะ !!
จังหวัดมิเอะ เป็นต้นตำรับของนินจาอิกะสุดยอดนินจาของแท้ดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น
จังหวัดมิเอะ เป็นต้นกำเนิดของอามะจัง ผู้หญิงแห่งท้องทะเลของประเทศญีปุ่น
จังหวัดมิเอะ เป็นแหล่งผลิตเนื้อวัวมัตสึซากะ 1 ใน 3 สุดยอดเนื้อวัวที่ดีที่สุดในโลก
จังหวัดมิเอะ มีศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับ 2000 ปี หนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
จังหวัดมิเอะ มีฟาร์มไข่มุกมิกิโมโตะ ที่มีชื่อดังระดับโลก ดังขนาดเอาไปทำมงกุฏนางงามจักรวาลกันด้วยน่ะ
จังหวัดมิเอะ ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะฮอนชู ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรคิอิที่ยื่นออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่แคบและทอดตัวยาวลงมาจากเหนือจรดใต้ ความซับซ้อนทางภูมิศาสตร์ทำให้สภาพอากาศมีความหลากหลาย จึงทำให้มิเอะมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกิน รวมไปถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ที่เก่าแก่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เพราะฉะนั้นมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อๆไป ไม่มามิเอะ ถือว่าพลาดน่ะจ๊ะ !!
ทริปนี้เป็นทริปที่ใช้ Kintetsu pass ในบางช่วงการเดินทาง พาสนี้ใช้สำหรับเดินทางท่องเที่ยวได้ถึง 5 เมืองหลักคือ โอซาก้า เกียวโต นารา มิเอะ และ นาโกย่า คือจะเดินทางมาลงโอซาก้าแล้วกลับทางนาโกย่าก็ได้ พาสนี้น่าสนใจมากเพราะสามารถครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญได้หมดโดยไม่ต้องเปลี่ยนพาส และราคาคุ้มแสนคุ้มแค่ 3600 เยน (ซื้อในไทยหรือ 3800 เยนถ้าซื้อในญี่ปุ่น) สำหรับเที่ยวได้ 5 วันเต็ม แต่ทริปนี้เราเน้นเที่ยวมิเอะมากหน่อยเพราะเป็นจังหวัดที่ยังไม่เคยมาแต่น่าสนใจ
ดูรายละเอียดของพาสนี้คลิกที่นี่เลย มีข้อมูลเป็นภาษาไทยด้วยน่ะ เจ๋งมาก ===> http://www.kintetsu.co.jp/foreign/thai/index.html
พาสใบนี้ให้เราขึ้นลงรถไฟฟ้าในพื้นที่บริการของรถไฟฟ้าคินเท็ตสึได้อย่างไม่จำกัด!
สุดคุ้มเพราะใช้เที่ยวได้ทั้ง โอซาก้า/นารา/เกียวโต/อิเซะชิมะ/นาโกย่า<นอกประเทศญี่ปุ่น> ผู้ใหญ่ 3,600 เยน (เด็ก 1,800 เยน)
<ในประเทศญี่ปุ่น> ผู้ใหญ่ 3,800 เยน (เด็ก 1,900 เยน)
* ผู้ใหญ่: อายุ 12 ปีขึ้นไป / เด็ก: อายุ 6 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 12 ปี
* เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่ายระยะเวลาการใช้งาน : จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2017
ระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้: 5 วันนับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้บริการ และอยู่ภายในระยะเวลาการใช้งาน● สามารถขึ้นลงรถไฟฟ้าคินเท็ตสึและรถไฟฟ้าอิกะได้อย่างอิสระภายใน 5 วัน
● สิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ
ดูรายละเอียดของพาสนี้ได้ที่นี่ ==> Kintetsu rail pass 5 days
ที่นอนพักในสนามบินคันไซ
เที่ยวโอซาก้าให้คุ้ม … นอนฟรีได้ที่นี่จ้าาา
หลายคนคงรู้แล้ว แต่ขอชี้เป้าให้คนที่ยังไม่เคยมาล่ะกัน สำหรับคนที่บินมาลงสนามบินคันไซค่ำๆแล้วอยากหาที่นอนแบบฟรีๆๆก่อนตื่นมาเปิดพาสรถไฟในตอนเช้าก็มานอนพักที่ห้องพักผ่อนในบริเวณชั้น 2 โซน Aeroplaza ใน terminal 1 ได้น่ะ ห้องหับกว้างขวาง มีเก้าอี้ยาวให้นอนกันเยอะเลย นอนกันฟรีๆเลย แต่ถ้าเราต้องการจะอาบน้ำ ก็มีห้องอาบน้ำบริการในราคา 500 เยน / 15 นาที มีที่ชาร์ตแบต สาย USB และร้านอาหารอยู่แถวๆนั้นด้วย เบอร์เกอร์ คิงส์ อยู่ตรงข้ามเลย สะดวกดีแถมประหยัดที่พักไปอีกคืนนน่ะ
โอซาก้า @ Abeno Harukas
Abeno Harukas ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น (ไม่รวมพวกคอหอยน่ะ)
Abeno Harukas มีเจ้าของคือ Kintetsu Corperation ซึ่งเป็นบริษัทิรถไฟสายดังของญี่ปุ่น คนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นคงจะคุ้นกันดี ในตึกมีห้างสรรพสินค้า โรงแรม ศูนย์อาหาร และไฮไลท์คือ observation deck หรือรู้จักกันดีในชื่อ Harukas 300 ที่ชั้น 60 บนความสูง 300 เมตร
ค่าขึ้นไปชมวิวบนดาดฟ้า (Harukas 300) ผู้ใหญ่ 1,500 เยน (เด็ก 12-17 ปี 1,200 เยน และ เด็ก 6-11 ปี 700 เยน) คุ้มๅๆ มาเหอะ ชมวิวเสร็จ กินช๊อปที่ห้าง Abeno Harukas Kintetsu department store ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 100,000 ตรม.ตึกได้ต่อเลย
การเดินทางมาง่ายมากคือนั่งรถไฟมาลงสถานี Tennoji ก็ถึงเลย
ขนมหวาน ขนมเค้กของญี่ปุ่นมันสุโค่ยจริงๆ เห็นแล้วจะบ้าตายอยากซื้ออยากชิมไปซะทุกร้าน ราคาก็ใช่ว่าจะแพงนักหนา บ้านเราบางร้านแพงกว่าซะอีก
ขนมในห้าง Kintetsu บนตึก ABENO HARUKAS นั่นล่ะค่ะ
นินๆๆๆๆๆ นินจาอิงะ ของแท้ต้นตำรับอยู่ที่นี่จ้าาา ที่ เมืองอิงะอุเอโนะ (Iga-Ueno) เมืองแห่งนินจา ที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น
นินจาได้แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลักๆ คือ อิงะ และ โคงะ ซึ่งในจังหวัดมิเอะนั้นเป็นนินจาฝ่ายอิงะ โรงเรียนนินจาชั้นนำในญี่ปุ่นยังมีอยู่อีกแห่งที่จังหวัดชิงะ ในช่วงศตวรรษที่ 15 เมืองนี้เคยเป็นสถานที่สอนวิชานินจามาก่อน อาจเรียกได้ว่าเป็นบ้านเกิดของนินจาในตระกูลอิงะ
หมู่บ้านนินจาอิงะ (Iga Ninja Museum) ประกอบด้วยบ้านพักอาศัยในอดีต ห้องแสดงนิทรรศการ 2 ห้อง สำหรับจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวกับการเป็นนินจา รวมถึงงานเขียนโบราณ พร้อมกันอาวุธนินจาประเภทต่างๆไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงหากใครอยากลองเป็นนอนจาดูสักครั้งก็มีชุดนินจาให้เช่าและขายอีกด้วย
การเข้าชมโชว์นินจา
ค่าใช้จ่าย: 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 11:00-15:00 (โชว์ทุกๆชั่วโมง)
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 756 เยน
ถ้าเป็นตั๋วรวมเข้าปราสาทอุเอโนและพิพิธภัณฑ์ดันจิริด้วยราคา 1500 เยน
วิธีการเดินทาง ตั้งต้นจากสถานีของ Kintetsu ที่ สถานี Osaka-Uehommachi (ติดกับห้าง Kintetsu สาขา Uehommachi) ขึ้นรถไฟขบวน Limited Express มาลงที่สถานี Igakambe จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย Iga Railway มาลงที่สถานี Uenoshi ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที และเดินต่ออีก 5 นาที
พิพิธภัณฑ์นินจาสำนักอิงะ (Igaryu Ninja Hakubutsukan) เข้ามาในนี้เราจะได้สัมผัสกับบ้านจำลองของนินจาของจริงที่มีกลไกลับและกับดักซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆของบ้าน
ปราสาทอุเอโนะ(Ueno Castle) ถูกสร้างขึ้นในสมัยปลายศตวรรษที่ 16 ใช้เป็นที่พักของขุนนางท้องถิ่นในสมัยเอโดะ (1603-1867) ตัวหอคอยของปราสาทถูกลมพายุทำลาย และได้มีการสร้างใหม่อีกครั้งประมาณปี 1935 จากเงินสนับสนุนของคนในท้องถิ่น ในการบูรณะตัวปราสาทนั้น ปราสาทอุเอโนะจะแตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีการใช้คอนกรีตในการซ่อมแซม แต่ปราสาทอุเอโนะนี้ได้เลือกใช้ไม้ทั้งหมดมาซ่อมปราสาท ทำให้ยังคงความดั้งเดิมของตัวปราสาทและให้ความสวยงามทั้งด้านในและด้านนอก รอบนอกของปราสาทนั้นเป็นกำแพงหินซึ่งกำแพงทางด้านตะวันตกเป็นกำแพงหินของปราสาทที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีก้ดวย มีความสูงกว่า 30 เมตร
ค่าเข้าชม:500 เยน
การเดินทาง เดิน 5 นาทีจากสถานรถไฟ Uenoshi
มามิเอะก็ต้องเลยไปทานเนื้อมัตสึซากะที่เมืองมัตสิซากะอยู่แล้ววววว มาถึงถิ่นกำเนิดกันเลย จะทานร้านอะไรก็แล้วแต่เราเลยค่ะ มีร้านอาหารในเมืองมากมาย เอาเป็นว่าลองชิมแบบชาบูดูบ้างชุดล่ะประมาณสองพันบาท ถูกกว่าทานที่เมืองไทยหน่อยแต่มันฟินที่มานั่งทานอยู่ที่เมืองมัตสิซากะนี่ล่ะ
ศาลเจ้าอิเสะ-จิงงู – Ise Jingu Shrines
หนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวญี่ปุ่น ศาลเจ้าอิเสะ เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ประกอบด้วยศาลเจ้ากว่า 125 แห่ง ได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยน่ะ ศาลเจ้านี้โดยสร้างเพื่อบูชา “เทพีอะมาเทราสึ” (Amaterasu) เทพีแห่งพระอาทิตย์ เทพเจ้าสูงสุดของชาวญี่ปุ่น ที่ศาลเจ้าอิเสะนี้ยังเป็นศาลเจ้าที่สมเด็จพระจักรพรรดิเสด็จมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นประจำทุกปีด้วย
ที่แปลกกว่าที่อื่นคือในทุกๆ 20 ปีจะมีการบูรณะศาลเจ้าโดยให้ทุกอย่างยังคงแบบเดิมไว้มากที่สุด ถือเป็นการถ่ายทอดทั้งความรู้และทักษะของช่างฝีมือรุ่นเดิมให้กับช่างฝีมือรุ่นใหม่ ตำแหน่งของศาลเจ้าจะขยับทุก 20 ปี คือจะมีที่ 2 แปลง 20 ปีแรกจะใช้แปลงหนึ่งและอีก 20 ปีถัดไปจะใช้อีกแปลงหนึ่งสลับกันไป ผู้คนที่มาสักการะก็สามารถมาได้ทุกวันเวลา ทุกครั้งที่มาก็จะเจอศาลเจ้าในสภาพที่สมบูรณ์ ว่ากันว่ายุคเอโดะขาวญี่ปุ่นจำนวน 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมดจะเดินทางมาสักการะศาลเจ้าอิเสะ โดยเป็นแหล่งศูนย์รวมทางจิตใจของชาวญี่ปุ่นมากที่สุดเลยทีเดียว ชาวญี่ปุ่นในปัจจุบันก็ยังมีความเชื่ออยู่ว่าซักครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมาสักการะให้ได้
เกะคุ (ศาลเจ้าด้านนอก)
การเดินจาก JR・Kintetsu (Iseshi Station) ประมาณ 10 นาทีถึง
อาคารศาลเจ้าที่ชื่อว่า “โกะโชงู” ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่มีระดับสูงที่สุด
ในคุ (ศาลเจ้าด้านใน) ซึ่งเป็นสถานที่สักการะบูชาบรรพบุรุษของราชวงศ์แห่งประเทศญี่ปุ่น
สถานีที่ใกล้ที่สุด : UchiMiya-mae Station ( รถบัส )
วิธีการเดินทาง : นั่ง Mie Kotsu Bus จาก Kintetsu Ujiyamada Station ไปลงป้าย Naigu-mae ประมาณ 15 นาที (ที่มาการเดินทางจาก Matcha-jp.com)
ออกมาจากอิเสะก็เดินเล่นกินชิมช๊อปกันต่อเลย
หินแต่งงาน (Meoto Iwa) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักเดินทางต่างมาขอพรให้สมหวังเรื่องความรัก และเป็นจุดชมวิวพระจันทร์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆจากสถานี Nagoya ด้วยรถไฟ Kintetsu nagoya Express หรือ JR Rapid Mie ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
หินแต่งงานนี้ตั้งอยู่ในศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ (Futami Okitama Shrine) เป็นหิน 2 ก้อนอยู่ริมทะเล ก้อนหนึ่งเล็กอีกก้อนหนึ่งใหญ่ ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยเชือกฟากเส้นใหญ่ที่เรียก “ชิเมนาวะ” (Shimenawa Rope) ซึ่งดูเหมือนกับด้ายมงคลบนศีรษะคู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานตามตำนานหมายถึงคู่สามีภรรยาคือ เทพอซานาวิ (Izanagi no Okami) และเทพอิซานามิ (Izanami no Okami) ผู้สร้างสรรพสิ่งบนโลกและให้กำเนิดเทพต่างๆอีกมากมาย ใครที่เป็นโสดก็จะมาขอพรให้เจอเนื้อคู่ ส่วนใครมีคู่อยู่แล้วก็จะขอพรให้รักกันยืนยาวมีความสุขตลอดไป ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของคู่รักคู่แต่งงานในการมาขอพรกันอย่างมาก
ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ย้อมสีซะเลย ^^ รปจากไอแพ่ดนะคะ เพราะแบตกล้องตกหายและไม่ได้เอากระเป๋ากล้องลงไปด้วย
ภาพจากโปสเตอร์ในบริเวรศาลเจ้า อยากเห็นบรรยากาศแบบนี้บ้างจัง
เมือง ToBa
Mikimoto Island มิกิโมโตะเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ในโทบะ จังหวัดมิเอะ ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของไข่มุกเลี้ยงและในปัจจุบันเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่มามิเอะ เกาะไข่มุกมิกิโมโตะเป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวไข่มุก การทำฟาร์มไข่มุก และมิกิโมโตะ โคคิชิ บุคคลแรกที่ประสบความสำเร็จในการเพาะไข่มุก เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในอ่าวโทบะที่มีสะพานเชื่อมเข้าถึง
ที่เกาะนี้คุณจะได้เห็นนักดำน้ำเก็บหอยผู้หญิงดำน้ำ (อามะจัง) ลงไปในทะเลเพื่อเก็บหอยและอื่น ๆ และคุณยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมิกิโมโตะ เช่นเดียวกับประวัติศาสตร์ของไข่มุก ที่นี่มีองค์ความรู้มากมายเกี่ยวกับไข่มุกเช่น ความแตกต่างระหว่างไข่มุกเลี้ยงและไข่มุกธรรมชาติ ความแตกต่างของสีไข่มุกและอื่น
การเดินทาง ตั้งต้นจากสถานีของ Kintetsu ที่ สถานี Osaka-Uehommachi (ติดกับห้าง Kintetsu สาขา Uehommachi) ขึ้นรถไฟขบวน Limited Express วิ่งตรงมาลงที่สถานี Toba ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
การแสดงดำน้ำของอามะจังที่เกาะไข่มุก เห็นการแสดงแบบนี้เดี๋ยวจะพาไปดูหมู่บ้านของอามะจังของจริงกันน่ะ
ที่พักในโทบะ @ Toba Hotel International โรงแรมที่ขึ้นชื่อว่าเป้นโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโทบะ เปิดให้บริการมากว่า 50 ปีตั้งแต่ปีค.ศ.1964 ภายในมีห้องพักให้บริการหลายรูปแบบ รวมถึงห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น โรงแรมสวยทำเลดีอยู่บนเขาทำให้มองเห็นอ่าวโทบะจากมุมสูงได้อย่างสวยงามเลย
ดูรายละเอียดของโรงแรมได้ที่นี่ ===> http://www.tobahotel.co.jp/en/
ห้องใหญ่โตกว้างขวาง ตกแต่งทันสมัยไม่มีเค้าเลยว่าที่นี่มีอายุนานเป็น 50 ปีแล้ว ห้องพักถือว่าออกแบบได้สวยงามเลยน่ะ วิวจากเตียงนอนเป็นวิวอ่าวโทบะ สวยงามทั้งกลางวันกลางคืน ชอบมาก นอนหลับสบายเลย
บริเวณล็อบบี้ ห้องอาหารและส่วนต่างๆของโรงแรมก็สวยงามกลมกลืนและสามารถสัมผัสกับธรรมชาติของอ่าวโทบะได้อย่างใกล้ชิดเลย
ชุดอาหารไคเซกิของทางโรงแรม อร่อยสดดีงามมาก
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ (Toba Aquarium) ตั้งอยู่ริมอ่าวโทบะ ถัดจากเกาะไข่มุกมิกิโมโตะการจัดแสดงนั้นมีสัตว์น้ำมากกว่า 1,000 ชนิด อาทิปลาหลากสายพันธุ์ ปู แมงกะพรุน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สิงโตทะเลแมวน้ำ เป็นต้น และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำไว้มากที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นเพียงแห่งเดียวที่อนุรักษ์พะยูนเอาไว้ ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ การจัดแสดงสัตว์น้ำต่างๆทั้งโชว์สิงโตทะเล โชว์นกเพกวิน โชว์วอลรัส
รายละเอียดตามลิงค์ไปเลยจ้าา ==> http://www.aquarium.co.jp/english/
การเดินทางจาก Ise-shi Station โดยสารรถไฟ JR หรือ Kintetsu Line ลงที่ Taba Station (ใช้เวลา 15 นาที รถไฟ JR 240 เยน รถไฟ Kintetsu 330 เยน) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2,400 เยน, เด็ก 1,200 เยน, เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป 600 เยน
อามะจัง ผู้หญิงแห่งท้องทะเลญี่ปุ่น
มาทานอาหารทะเลปิ้งย่างสดที่หมู่บ้านอามะซัง Amasankoya (หมู่บ้านที่ผู้หญิงมีอาชีพดำน้ำเก็บหอยใต้ทะเล) ที่เมืองโทบะ จังหวัดมิเอะ นอกจากจะได้ทานอาหารทะเลสดๆคุณภาพพรีเมี่ยมแล้ว ยังได้แต่งตัวสวยๆเป็นอะม่าซังด้วยน่ะ แต่งตัวเสร็จก็ถ่ายรูปเล่นแล้วมาเต้นรำวงแบบพื้นเมืองกับเหล่าอะมะซังกันอีก สนุกมากๆๆ เป็นอีกกิจกรรมที่ฟินและมีความสุขมาก อยากให้พวกเรามาลองกันดู ถ้ามีโอกาสแวะเวียนผ่ายมาแถวเกียวโต นารา โอซาก้าหรือนาโงย่า เผื่อเวลามาเที่ยวมิเอะดูบ้าง ที่นี่มีอะไรที่น่าสนใจและมีความสำคัญระดับท๊อปๆของญี่ปุ่นอยู่หลายอย่างเชียว ซึ่ง “อามะ” เป็นอาชีพที่มีมายาวนานกว่าสองพันปีแล้ว และปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่ในพื้นที่โทบะและชิมะ ในญี่ปุ่นมีผู้ประกอบอาชีพอามะอยู่ประมาณสองพันคน ซึ่งครึ่งหนึ่งล้วนอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตโทบะและชิมะ
ราคาอาหารเป็นเซ็ท เริ่มต้น 2160 – 9720 เยนต่อคน เซ็ทที่ทานเป็นแบบ คนล่ะ 3780 เยน ( ราคามากันตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป) แล้วจ่ายเพิ่มล็อปสเตอร์ หอยเปาฮื้อ หรือจะสั่งแบบ luxury set ราคา 6480 ก็จะได้ชุดใหญ่ครบเลย คุ้มมากๆๆ ถ้าจะเช่าชุดแต่งตัวแบบอะม่าซังก็จ่ายเพิ่มอีก 300 เยนค่ะ
การเดินทางโดยรถไฟจากนัมบะ โอซาก้า (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หรือ เกียวโต มาลง Toba (เกือบ2ชม. ครึ่ง) ด้วยรถไฟ Kintetsu มาลง Toaba และนั่งแท๊กซี่มาต่อ อันนี้แต่แพงหน่อยแต่ถ้ามากันหลายคนก็เช่ารถขับเที่ยวถูกกว่ามากเลย
**** ทางเลือกสำหรับคนที่จะกับทัวร์ ลองดูที่นี่น่ะ http://amakoya.com ***
อามะซังตัวจริงเสียงจริง จะนำอาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็น หอยอาซาริ หรือ กุ้งลอบสเตอร์ มาย่างให้เราทานกันแบบสดๆ แถมมีชุดอามะซังให้แต่งคอสเพลย์ และร่วมเต้นรำด้วยกันอีกด้วย
เปาฮื้อชิ้นใหญ่ทีสุดตั้งแต่ทานมาเลย
อุทยานแห่งชาติอิเซะชิมะ (Ise-Shima National Park)
สามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวโยโคยะมะ (Yokoyama Observatory) เพื่อชมวิวอ่าวอะโกะ (Ago Bay) จากมุมสูงที่สวยงามได้ แต่ต้องเดินขึ้นเขาไปหนักพอสมควรและกล้องแบตหมดเพราะดันไปทำหล่นที่หินแต่งาน เลยได้ใช้แต่ไอแพ่ดเก็บภาพมาฝากกัน เสียดายมากเพราะวิวจากจุดนี้จะเห็นอ่าวอะโกะที่สวยงามจริงๆ
Hotel Kintetsu Aquavilla Ise-Shima
Hotel Kintetsu Aquavilla Ise-Shima โรงแรมขนาดใหญ่ สวยอยู่บนเนินเขาและใกล้ทะเลสาบ แต่มาถึงค่ำแล้วยังไม่ได้เดินสำรวจเลย แต่ดูวิวจากมุมสูงแล้วสวยเชียว และอยากชิมอาหารเช้าว่าจะอร่อยเหมือนมื้อตอนเย็นไหม ที่นี่อยู่จังหวัดมิเอะค่ะ ใกล้ๆกับนารา เกียวโต มัตสึซากะ
ตอนไปพายุเข้าญี่ปุ่นเมื่อวานตอนเย็น เช้านี้จริงๆมีแปลนไปล่องเรือชมทิวทัศน์รอบๆแต่ฝนตกคงงดแล้วจะไปหมู่บ้านสเปนแทน ซึ่งก็สวยงามโอเคน่าเที่ยวเชียวล่ะ
ลิงค์ไปดูรายละเอียดของโรงแรมทางนี้จ้าาา ==> http://www.miyakohotels.ne.jp/aquavilla/english/
อาหารเช้าจัดเต็มมาก
สวนสนุกชิมะหมู่บ้านสเปน Shima Spain Village หรือ Shima Spain Mura หรือ Parque Expana เป็นสวนสนุกธีมพาร์คที่เป็นรูปแบบประเทศสเปน มีการออกแบบคล้ายกลับดิสนีย์แลนด์ ภายในมีเครื่องเล่นต่างๆ ไฮไลท์ที่เป็นที่สนใจคือการเต้นฟลามิงโก้ อันมีชื่อเสียง
การเข้าชม 4,900 เยน (one day pass รวมค่าเครื่องเล่นทุกชนิดไม่จำกัด)
เวลาเปิด-ปิด : 09:30-17:00 (ช่วงวันหยุดหรือฤดูแห่งการท่องเที่ยวจะเปิดนานกว่าปรกติ และช่วงโลว์ซีซั่นจะปิดเร็วกว่าปรกติ เช็คเวลาก่อนไปนะตะ)
การเดินทาง สถานีรถไฟที่ใกล้ สวนสนุกชิมะหมู่บ้านสเปนที่สุด คือสถานี Shima-Isobe Station ของรถไฟ Kintetsu Shima Line ซึ่งจะมีบัสบริการรับส่งถึงที่ จากสถานี Ise-shi Station เดินทางไปยัง Shima-Isobe Station โดยสารรถไฟด่วน (35 นาที 1,060 เยน) หรือรถไฟท้องถิ่น(50 นาที 550 เยน)
จาก Toba โดยสารรถไฟด่วน (20 นาที 890 เยน) หรือรถไฟท้องถิ่น(30 นาที 380 เยน)
หากมาจาก Nagoya, Osaka หรือKyoto สามารถนั่งรถไฟด่วนไปลงที่ Shima-Isobe Station ได้โดยตรง
Kintetsu Ise-Shima Liner
รถไฟขบวนพิเศษสวยงามสุดหรูจาก Kintetsu หรูไม่รู้ดูกรอบรูปที่ตกแต่งตามฝาผนังซะก่อน นี่มันไข่มุกจาก Mikimoto น่ะ !!
Kintetsu Ise-Shima Liner จาก Shima city ไป Kuwana ใช้เวลา 1 ชม.50 นาที
รถไฟญี่ปุ่นเทพมากสวยทุกคันเลย ใช้ Kintetsu pass 5 วัน นั่งเที่ยวในโอซาก้า มาเกียวโต นารา มิเอะ แถมข้ามไปนาโกย่าได้อีก ราคาแค่ 3600 เยน คุ้มสุดดดๆๆ( ซื้อจากเมืองไทยน่ะ ถ้าซื้อที่ญี่ปุ่น 3800 ) โซนสีชมพูสวยมาก เก้าอี้ใหญ่ กว้างขวาง ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มน่ะ ส่วนโซนสีครีมหรูหน่อย เป็น deluxe seat อยู่หัวขบวนมีไข่มุกประดับฝาผนังด้วย โซนนี้ต้องเสียเงินเพิ่ม 300 เยน ส่วนสีฟ้าเป็นโซนปรกติค่ะ
ดูรายละเอียดของรถขบวนนี้ได้ที่นี่ค่ะ ==> Quintets Ise-shima limited express
Nagashima spa land
สวนสนุกที่เป็นมากกว่าแค่สวนสนุกด้วยความใหญ่โตของพื้นที่และโซนเครื่องเล่นมากมาย รวมถึงขวัญใจเด็กๆอย่าง Nagoya Anpanman Children’s Museum & Park แล้ว ล่าสุดยังเพิ่งเปิดสวนน้ำขนาดใหญ่ Joyful Waterpark นอกจากนี้ยังมีบริการออนเซ็นและ เอาท์เล็ทขนาดใหญ่ Mitsui Outlet Park Jazz Dream ที่อยู่ติดๆกันเรียกได้ว่าตอบโจทย์ของคนทุกเพศวัยได้เลย จะมากับเพื่อน จะมาเป็นครอบครัวหรือจะมาเป็นคู่ก็สามารถพบกับความสุขสนุกสนานเพลินเพลินกันทุกคนแน่นอน
Joyful Waterpark สวนน้ำแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับโลกกันเลยน่ะ
ดูรายละเอียดการเดินทางและข้อมูลต่างๆของที่นี่ได้ที่นี่เลย มีภาษาอังกฤษน่ะ ==> Nagashima Spa land information
การเดินทางจาก เมืองชิมะ (Shima) (เราไปเที่ยวหมู่บ้านสเปนกันมาก่อน) ให้ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ISE-SHIMA LINER ของKintetsu ที่สถานี Ugata เพื่อไป สถานี Kuwana โดยรถไฟขบวนนี้จะวิ่งไปสุดสายที่สถานี Nagoya เราสามารถใช้ Kintetsu Rail Pass ขึ้นได้ แต่จะต้องทำการจองที่นั่งและซื้อตั๋ว Limited Express เพิ่ม ในราคา 1,320 เยน หรือถ้าสนใจอยากนั่ง Deluxe seat จ่ายเพิ่มในราคา 1,620 เยน
ถ้ามาจากโอซาก้า ตั้งต้นจากสถานีของ Kintetsu ที่ สถานี Osaka-Uehommachi (ติดกับห้าง Kintetsu สาขา Uehommachi) ขึ้นรถไฟขบวน Urban Liner มาลงที่สถานี Tsu จากนั้นต่อรถไฟ Limited Express มาลงที่สถานี Kuwana ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ติดกันคือ Mitsui Outlet Park Jazz Dream ซึ่งเป็นเอาท์เล็ทใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ดูรายละเอียได้ที่นี่เลย ===> Mitsui Jazz dream outlet
ปราสาทนาโกย่า
ที่พักในนาโงย่า
@Sanco inn Nagoya Nishiki โรงแรมใหม่อยู่ใจกลางเมือง ราคาไม่แพงสะอาดสะดวกสบายแถมมีออนเซ็นให้แช่อยู่ชั้นบนอีกต่างหากน่ะ
พิพิธภัณฑ์โตโยต้า
Central International Airport Nagoya (Centrair)
Central International Airport (Centrair ) ซึ่งเป็นสนามบินที่ดีงามมากกกก ร้านอาหาร ร้านขายของ Sky Deck อย่างใหญ่มากๆๆ เรานั่งชมลานจอดเครื่องบิน ดูเครื่องบินขึ้นลงได้แบบใกล้ชิดมากๆ แถมมีลานเบียร์ และร้านอาหารฝรั่งเศสบนนี้ด้วยน่ะ
มี Access Plaza ที่เราสามารถต่อรถไฟ บัส เฟอรี่ แท๊กซี่ มีแมวดำส่งของด้วย โรงแรม 3 แห่งทั้ง Central Hotel , Comfort Hotel and Toyoko inn เริ่ด!!!! สมศักดิ์ศรี The Best Regional Airport in the world จาก Startrax 3 ปีซ้อน และเป็น The 6th Best Airport ปีนี้ด้วยนาจา
ทริปนี้สนุกมาก ได้เที่ยวได้เห็นอะไรเป็นครั้งแรกมากมาย รวมทั้งจังหวัดมิเอะด้วย จริงๆจังหวัดนี้เราไม่ค่อยคุ้นกันทั้งๆที่อยู่ใกล้ๆนารา เกียวโต นาโกย่า และโอซาก้านิดเดียว การเดินทางก็ลิงค์ถึงกันได้อย่างสะดวกง่ายดาย
เราคุ้นเคยกับการมาโอซาก้า แล้วต่อมาเที่ยวนาราและเกียวโต แต่จริงๆแล้วมิเอะก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายทั้งศาลเจ้าอันดับ 1 ของญี่ปุ่นคือ Geku และ Naiku จังหวัดต้นกำเนิดเนื้อวัวมัตสึซากะก็อยู่ที่นี่ หมู่บ้านนินจาอิงะของแท้ก็อยู่ที่นี่ ฟาร์มไข่มุกชื่อดังระดับโลก Mikimoto ก็อยู่ที่นี่หมู่บ้านที่มีผู้หญิงที่ดำเก็บหอยใต้น้ำ (อะมะซัง) ก็อยู่ที่นี่ หมู่บ้านสเปนในหุบเขาแสนสวยก็มี สวนสนุกสุดอลังการและสวนทะเลน้ำเค็มขนาดมหึมาแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่ Nagashima City ก็อยู่ที่นี่ และอื่นๆอีกเยอะแยะะะะ
สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวที่ๆใหม่ๆแปลกตาและสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอีกมุมนึงก็ลองมาเที่ยวดูนะคะ #Kintetsu Pass 5 วัน ราคา 3600 (ซื้อที่ JTB หรือ KNT ที่เมืองไทย และ 3800 เยนถ้ามาซื้อที่ญี่ป่น) ที่เราสามารถใช้เที่ยวทั้งหมดนี้คือโอซาก้า นารา เกียวโตแล้วนั่งข้ามมานาโกย่า มันคุ้มมากกกกเพราะลำพังนั่งรถไฟจากโอซาก้า มานาโกย่าก็คุ้มแล้วจ้า