Sep-2017
Road trip 10 วัน 2575 กม. วงกลมแม่ฮ่องสอนกับ 40 จุดต้องแวะ
แม่ฮ่องสอน ไม่ไกลจนไปไม่ถึง ….. อย่าเพิ่งรีบแก่ ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนก่อน !!
กับทริปขับรถเที่ยววงกลมเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ปี 2017
ชอบขับรถเที่ยวแบบจริงจังมาก มากันอีกครั้งกับการเที่ยววงกลมเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 10 วัน ทริปนี้เวลาเยอะ ขับไม่เยอะ เพราะเอาจริงๆขับไปแค่ 2575 กม. (เคยขับ 9 วันสี่พันกว่ากม. อ๊วกเลย 555) แวะนอนถี่ๆ ทริปนี้เลยไม่เหนื่อยมากถือว่าค่อนข้างชิลล์เลยล่ะ ถ้าเราจะขับเที่ยวเฉพาะแค่เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน วงกลม เริ่มที่เชียงใหม่ใช้เวลาแค่ 4 คืนก็เหลือเฟือน่ะ
ช่วงนี้ทุ่งนาสวย ภูเขาเขียวชะอุ่มสดชื่น เหมาะกับการขับรถเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ที่สุดน่ะ ก็ถนนดีตลอดยกเว้นช่วงนครสววรค์-กำแพง มีกระเด็นกระดอนบ้าง สลับสวนกันบ้าง ส่วนเส้นบนเขา 1095 แม่มาลัย ปาย ถนนดีมาก โค้งหักถี่ยิบๆ ช่วงปางมะผ้าเข้าแม่ฮ่องสอนมีช่วงชันถี่ๆแล้วหักเลย คนขับไม่แข็งไม่แนะนำน่ะเพราะเราต้องควบคุมรถดีประมาณนึงเลย
ช่วงขึ้นบ้านรักไทย มีชันหักศอกบ้าง เหมือนเดิมคือขับไม่แข็งรถไม่ดีไม่แนะนำ ส่วนขากลับ 108 แม่ฮ่องสอน แม่ลาน้อย แม่สะเรียง ขับได้เรื่อยๆแบบร่อนซ้ายขวามีช่วงชันไม่มาก เส้นทางสวยขับไม่ยาก ไปเรื่อยๆได้สบาย อ้อ จากฮอด 108 ตัดเข้าแม่แจ่ม มีทำทางขยายถนนเยอะอยู่น่ะ
ที่ต้องเตือนคือทางขากลับจากแม่แจ่มไปดอยอินทนนท์นี่ขับขึ้นอย่างเดียวเลย คือขึ้นๆๆพุ่งๆไปเรื่อยๆมีทางแคบมากช่วงยาวๆ ต้องระวังรถขาลงน่ะเพราะถ้าเค้าทิ้งโค้งมาลงเร็วๆแล้วกินเลนมา เราแย่แน่ เพราะฉะนั้นขยันใช้แตรรถ ส่งสัญญานเสียงเป็นระยะน่ะจ๊ะ
📷
📸
📷
📸
📷
📸
อุปกรณ์ถ่ายภาพในทริปนี้ ใช้ Nikon D750 และ 35 1.4 มากที่สุด รองมาเป็น 14-24 ที่ยังไม่ได้ซ่อม มันล็อคอยู่ที่ 21mm ก็ใช้เป็นเลนส์ฟิกส์ไป อิอิ และ 105 1.4 E ED
(ใช้กล้องสำรอง Nikon D7100 กับเทเล 55-300 บ้างเพราะไม่มีเทเลใช้กับ D750)
🚗
🚙
🚘
🛵
🏍
ทริปนี้เริ่มจากบางแค เชียงใหม่ ห้วยน้ำดัง ปาย ปางมะผ้า บ้านจ่าโบ่ ปางอุ๋ง บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน ผาบ่อง แม่ลาน้อย แม่สะเรียง สวนสนบ่อแก้ว โครงการหลวงแม่โถ แม่แจ่ม เชียงใหม่ กรุงเทพ ==> ใช้รถ Chevrolet Trailbrazer 2.5 duramax 2017 ดีเซล ค่าน้ำมันตลอดทริป 5080 บาท ไปเต็มถัง กลับมาเหลืออีก 3 ขีด
⛰
🏔
🛤
🏕
🛣
🗻
โปรแกรมคร่าวๆดังนี้ รีวิวนี้จะเอาแต่รูปในทริปนี้มานะคะ เพราะเที่ยววงกลมแม่ฮ่องสอนมาหลายรอบแล้ว สถานที่ท่อเที่ยวก็ซ้ำๆหลายที่เหมือนกัน
📌 วันแรก กรุงเทพ – ปาย แวะห้วยน้ำดัง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ค้างเลยลงมานอนปายที่ Romance Farm in the Valley of Pai
.
📌วันที่ 2 เที่ยวปายหลายที่ ถนนคนเดิน นอน B2 Pai Premier นอนห้อง Luxury deluxe pool access จองผ่าน Traveloka 1335 บาท
.
📌 วันที่ 3 เที่ยวปาย จุดชมวิวหยุนไหล นอนบ้านจ่าโบ่ 300 บาท + ค่าอาหาร 100 บาท
.
📌 วันที่ 4 สปาที่ภูโคลน นอนในรถที่ปางอุ๋ง เที่ยวบ้านรักไทย สะพานซูตองเป้
.
📌 วันที่ 5 เที่ยววัดพระธาตุดอยกองมู นอน B2 Mae Hong Son Premier Resort / บีทู แม่ฮ่องสอน พรีเมียร์ รีสอร์ท 700 บาท
.
📌 วันที่ 6 ตลาดเช้าสายหยุด เที่ยวชุมชนผาบ่อง เมืองปอน แม่ลาหลวง แม่ลาน้อย นอน เฮินไต รีสอร์ท แม่ลาน้อย 900 บาท
.
📌 วันที่ 7 ขึ้นเขาชมวิวไปโครงการหลวงแม่ลาน้อย เที่ยวพระธาตุ 4 จอม กาดติ๊ด (ตลาดเย็นแม่สะเรียง) นอน Above The Sea mae sariang แม่สะเรียง 700 บาท
.
📌 วันที่ 8 เที่ยวทุ่งนาแม่สะเรียง สวนสนบ่อแก้ว โครงการหลวงแม่โถ นอน มนต์เมืองแจ่ม 1200 บาท
.
📌 วันที่ 9 ดอยม่อนหมาก ป่าบงเปียง น้ำตกแม่ยะ นอน Baan Hmon-Oonเชียงใหม่
.
📌 วันที่ 10 ออกจากเชียงใหม่ 10 โมงครึ่ง แวะเที่ยวพระธาตุสันดอน ลำปาง เขาหน่อเขาแก้ว นครสวรรค์ ถึงกรุงเทพสองทุ่มครึ่ง
1.ห้วยน้ำดัง
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเห็นทะเลหมอกเลย ถึงไปซ้ำๆๆ
ครั้งล่าสุดตั้งใจไปค้างแต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เปิดให้ค้างคืน จะเปิดอีกครั้งเดือนตค. เลยต้องลงไปนอนที่ปายแทน
ต้องกลับไปแก้มืออีกครั้งแน่นอน !!
อุตส่าห์เอารถใหญ่ไปเตรียมนอนในรถเต็มที่ ผิดหวังเลยเรา
2.สะพานประวัติศาสตร์ปาย
ประตูสู่ปาย ทุกคนที่มาปายจากเชียงใหม่ต้องผ่านจุดนี้ก่อนเข้าเมืองปายกันทุกคน สะพานประวัติศาสตร์ปายยู่ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 88 สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทหารประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ข้ามแม่น้ำปายและลำเลียงเสบียงและอาวุธเข้าไปยังประเทศพม่า ปัจจุบันเป็นจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะมาเดินเล่น ถ่ายภาพชมวิวกันทั้งวัน
3.โป่งน้ำร้อนท่าปาย
จุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเค้าไม่พลาดกัน เราคนไทยจะพลาดได้ยังไง ไปกันซักครั้งเนอะ
โป่งน้ำร้อนท่าปายส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังที่อยู่ใกล้อำเภอปาย เป็นบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยป่าเขาลำธารร่มรื่น โดยมีบ่อใหญ่อยู่สองบ่อ บางช่วงเป็นแอ่งกว้างให้ลงแช่ตัวอาบน้ำแร่ได้ บางช่วงทำได้เพียงนั่งลงแช่เท้าเท่านั้น การอาบน้ำแร่ในโป่งน้ำร้อนท่าปายเป็นการอาบน้ำแร่ในบ่อแช่แบบธรรมชาติที่มีสภาพเดิมๆคือแช่กันกลางป่ากันเลย จะแต่งชุดอะไรก็ได้ตามใจเรา จะให้เหมาะก็น่าจะเป็นชุดว่ายน้ำหรือชุดว่ายน้ำแบบไทยๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้นก็ได้
ทางเดินเที่ยวร่มรื่นมาก ถึงไม่ไปแช่ไปเดินชมธรรมชาติก็ดีต่อใจแล้ว ที่นี่มีร้านสวัสดิการจำหน่ายอาหาร ขนม หรือไข่เพื่อให้นักท่องเที่ยวลองนำไปต้มในบางบ่อซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 80 องศาเซลเซียสสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 5324 8491, 0 5324 8491, 0 5326 3910 (ข้อมูล ททท.)
ขับรถใหญ่มันดีจริงๆ ไม่ใช่ดีต่อใจแต่มันรู้สึกว่าขับขี่มั่นใจปลอดภัยกว่าจริงๆ
ท่องเที่ยววิถีไทย เที่ยวไปกับป้าย 5555
4.น้ำพุร้อนไทรงาม
น้ำพุร้อนไทรงาม อยู่ห่างจาก อ.ปายไปทางแม่ฮ่องสอน ราวๆ 12 กม. เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก ไม่ค่อยมากัน แต่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติมากๆ วันที่ไปก็เห็นมีแต่ต่างชาติเกือบทั้งหมด ใส่ชุดว่ายน้ำมาแช่น้ำกันสนุกสนาน สระน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก น้ำใสสีเขียวมรกตสวยงาม เป็นน้ำอุ่นไม่ใช่น้ำร้อนแบบที่เราแช่ตามบ่อน้ำพุร้อนกัน ใครไปปายก็ลองแวะไปนอนแช่น้ำสบายๆผ่อนคลายกันได้ แม้ระยะทางจะไม่ไกลตัวเมืองปายเท่าไหร่นัก แต่เส้นทางแอบชันมากๆน่ะ บางจุดขับมาอยู่ดีๆ อ้าว ถนนหายซะงั้น 555 เหมือนเล่นโรลเลอร์ โคสเตอร์เลย เพราะฉะนั้นคนที่ขับรถไม่ชำนาญ ไม่แนะนำน่ะ
ค่าธรรมเนียมการเข้าน้ำพุร้อน เด็ก อายุ 3-14 ปี คนละ 10 บาท และผู้ใหญ่ อายุ 15 ปีขึ้นไป คนละ 20 บา
มีทัวร์พามาลงเป็นส่วนมากเลยน่ะ มีบางส่วนที่ขี่มอเตอร์ไซด์ไปเอง แต่อย่างที่บอกว่าทางมันค่อนข้างอันตรายเป็นบางจุด คิดจะไปเองก็ลองประเมินดูนะคะ
อิจฉาคู่นี้มาก อิอิ
สนุกเค้าล่ะ
น้ำไม่ร้อนน่ะ แค่อุ่นๆ ถ้าไม่แช่ก็นั่งแช่เท้าดูเค้าเล่นได้ เพลินดี
5.น้ำตกหมอแปง
ปายมีความอุดมสมบูรณ์มาก เพราะฉะนั้นมีน้ำตกที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่หลายแห่งแน่นอน น้ำตกหมอแปงเป็นน้ำตกยอดนิยมของอำเภอปาย จัดเป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สภาพแวดล้อมสวยงามร่มรื่นเหมาะไปปิคนิคหรือไปเล่นน้ำคลายร้อนกันมากๆ บางชั้นต้องปีนป่ายซึ่งเราไม่สะดวกเพราะแบกทั้งกล้องตัวใหญ่ทั้งขาตั้งกล้องไป เลยเก็บภาพเฉพาะชั้นที่เราเดินถึงได้ง่ายๆมาฝากกันเบาๆ
การเดินทาง จากอำเภอปาย เริ่มต้นจากหลักกิโลเมตรที่ 102 บนเส้นทางหลวงหมายเลข 1095 ไปทางอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปจนถึงหมู่บ้านมูเซอยะโป๋ จากนั้นเข้าไปอีก 500 เมตร ตามถนนดินแดงขนานเล็ก จะพบน้ำตกหมอแปงอยู่ทางด้านขวามือ หรือง่ายๆก็ตั้ง GPS ตามพิกัดของกูเกิ้ลแม๊พไปเลยค่ะ ถึงแน่นอน ไปไม่ยาก
6.Coffee in love
ร้านกาแฟอันมีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน ถือเป็นแลนด์มาร์คนึงของปายเลยล่ะกัน ไม่ไปนั่งทานกาแฟ ทานขมมก็ไปถ่ายรูปแชะแชร์กันก็ฟินน่ะ ที่นี่ก็แปลกคือไปเห็นกี่ครั้งก็สวยขึ้นทุกครั้ง เค้าดูแลสถานที่ได้ดีมาก สร้างอะไรเพิ่มมาก็สวยงามเข้ากันดี คือสรุปว่าถ้าไม่มีเวลาที่จะนั่งชิล์ ก็แวะไปถ่ายรูปนี่แหล่ะ เพราะยังไงเราเข้าออกปายยังไงก็ต้องผ่านที่นี่กันทุกคนเพราะร้านอยู่ขวามือริมถนนก่อนเข้าตัวเมืองปาย
Coffee in Love
92 หมู่ 11 ริมถนน 1095 อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
โทร.0-5369-8251
ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 6.00-18.00 น.
facebook : Coffee in Love ปาย
7.Love Strawberry
Love Strawberry Pai เป็นไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่น่ารักมากๆ อยู่บนเส้นทางแม่มาลัย ห้วยน้ำดัง ปาย อยู่ขวามือก่อนถึง Coffee in love ด้านในมีไร่สตรอว์เบอร์รี่ ด้านนอกมีร้านขายของที่ระลึก เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด มีร้านกาแฟ ชิมเครื่องดื่มพวกสตรอเบอรี่ปั่น สมู๊ทตี้ชื่นใจดี มี มุมถ่ายรูปจุ๊กจิ๊กมากมาย
โทร: 081 765 3629
Facebook : Lovestrawberrypai
8.ถนนคนเดินปาย
ปายไม่ได้มีแต่ธรรมชาติที่สวยงาม ที่พักร้านกาแฟน่ารักๆเท่านั้น อยากจะช๊อปของฝากกลับบ้านหรือเดินหาอะไรอร่อยๆทานยามค่ำคืนก็ต้องมาถนนคนเดินปายกัน ซึ่งลักษณะของถนนคนเดิน อ.ปาย เดิมที่มีเพียงการวางแผงสินค้าที่ระลึกเล็ก ๆ ริมถนนของชาวบ้านในอำเภอปาย จำพวกสินค้าพื้นเมืองประเภทหัตถกรรมต่างๆของชาวเขา เช่น หมวก เสื้อผ้า รองเท้าลูกปัด กำไล สร้อยคอ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เน้นที่ชาวต่างชาติมากกว่า หลังจากนั้นชาวบ้านเริ่มขายอาหารท้องถิ่น เปิดเป็นร้านค้าอาหารยุโรป น้ำดื่ม เหล้า เคาว์เตอร์เบียร์ ฯลน พอนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้นในช่วง ปี 51-55 นี้ เริ่มเริ่มมีร้านค้าจำพวก โปสการ์ด โรตี ก๋วยเตี๋ยวร้านเบเกอร์รี่ ร้านปลาหมึกย่าง ซีฟู๊ด BBQ หรือจะปิ้งย่างหม่าล่าเมนูฮิตตอนนี้ที่เห็นอยู่หลายร้าน ที่อยากให้ชิมกันคือข้าวปุกงา ซึ่งเป็นของกินของภาคเหนือ เป็นการนำเอาข้าวเหนียวดำมาตำผสมกับงาขี้ม่อนให้เหนียว แล้วเอามารีดเป็นแผ่นบนใบตองสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 3 วัน นำไปย่างไฟแล้วโรยด้วยน้ำอ้อย งาขี้ม่อน หรือนมข้นหวาน เหนียวหนึบๆหวานอร่อยเข้ากันมาก ชอบมากๆ เมนูนี้เจอที่ไหนต้องทานทุกครั้ง
แม้จะไม่ได้มาปายเพราะแสงสีเสียงที่ถนนคนเดิน แต่มันก็ถือว่าเป็นสีสันเสน่ห์อย่างหนึ่งของปายเลยน่ะ
9.วัดพระธาตุแม่เย็น
วัดพระธาตุแม่เย็นตั้งอยู่บนเขาหลังหมู่บ้านแม่เย็น ห่างจากที่ว่าการอำเภอปายประมาณ 2 กิโลเมตร และเลยจากทางเข้าน้ำตกแม่เย็นมาเพียง 100 เมตร ขับรถขึ้นเขามานิดเดียว จากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอปายได้ทั่วถึงทั้งบ้านเรืองและทุ่งนา ยิ่งถ้าได้ขึ้นไปในตอนเย็นจะได้ชมพระอาทิตย์ตกโดยมีเทือกดอยจิกจ้องเป็นฉากหลังที่งดงามที่สุด
บริเวณวัดพระธาตุแม่น้ำเย็นเงียบสงบเหมาะสำหรับสมทัศนียภาพของอำเภอปายได้อย่างกว้างไกลสุดสายตาแบบพาโนรามา ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมคือช่วงยามเช้าและยามพระอาทิตย์ตก
และยังมีที่ประดิษฐานของ “พระพุทธโลกุตระมหามุนี” พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ ที่โดดเด่นเห็นแต่ไกลที่อยู่ด้านหลังวัดพระธาตุ ที่เราต้องเดินบันไดขึ้นเขาไปค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็ไม่เกินความพยายามเพราะจุดหมายปลายทางด้านบนมันสวยงามคุ้มค่าจริงๆ
ทาขึ้นค่อนข้างชันน่ะ เห็นตอนแรกเกือบถอดใจ มาเปลี่ยนใจเอาตอนจะกลับนี่ล่ะ แต่วิวด้านบนสวยงามจริงๆ ไม่อยากให้พลาดกัน
10.วัดน้ำฮู
ปายไม่ได้มีเพียงท้องนา ทิวเขาใต้เงาของสายหมอกที่น่าหลงใหลเท่านั้น หากปายยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา และส่วนหนึ่งของเรื่องราวในอดีตเหล่านั้นซ่อนอยู่หลังความคลาสสิกของวัดน้ำฮู วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของปายและอยู่คู่เมืองปายมายาวนาน โดยมีพระอุ่นเมือง พระพุทธรูปที่อยู่คู่มากับวัดนี้คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองปายและนักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะกราบสักการะ
วัดน้ำฮูอยู่ทางเดียวกับจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ไปชมทะเลหมอกก่อนแวะชมวัด กำลังดีเลย วัดสวยงามเงียบสงบร่มรื่นดูน่าเลื่อมใส ไปปายอย่าลืมแวะชมกันนะคะ
11.วัดศรีดอนชัย วัดที่เก่าแก่ที่สุดในปาย
วัดแรกของปาย เดิมชื่อวัดหลวง สะหรีบัวบาน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์ปาย) พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ซึ่งมีอายุมากกว่า 800 ปี เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองปาย ตัววัดได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1855
ที่ตั้ง : 18 หมู่ 8 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
12.ทะเลหมอกหยุนไหล
เที่ยวหน้าฝน มองอะไรก็สบายตาไปหมด จุดชมวิวหยุนไหลเลยหมู่บ้านสันติชลขึ้นไปอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตร “ทะเลหมอกหยุนไหล” เป็นจุดชมทะเลหมอกดั้งเดิมของปาย แม้ปายจะมีจุดชมวิวใหม่ๆเกิดขึ่น วันนี้ที่นี่ก็ยังสวยงามและเงียบสงบ (เหมือนหมอกที่เงียบกริบ) แม้จะผิดหวังกับหมอกที่ไม่มาตามนัดแต่ก็ได้เห็นมุมกว้างๆกับอากาศเย็นๆหลังฝนตกแบบนี้ก็สดชื่นนะคะ เห็นปายในมุมสูงแบบนี้แล้วลืมภาพความแออัดที่ถนนคนเดินปายตอนกลางคืนช่วงวันหยุดยาวหน้าหนาวไปเลย อิอิ
ใครที่ชอบถ่ายภาพ อยากลืมติดเลนส์เทเลไปด้วยนะคะ ในวันที่ไร้หมอก เราก็สามารถซูมหาความน่าสนใจอื่นๆได้อีก
13.จุดชมวิวดอยกิ่วลม
จุดชมวิวบนเส้นทางปาย ปางมะผ้า อยู่ห่างจากปายราว 34 กม. เส้นนี้มีทิวทัศน์สวยงาม โค้งเยอะ ช่วงจากปางมะผ้าไปแล้วยิ่งขับสนุกแต่อย่าขับเพลินน่ะเพราะโค้งหนักดิ่งๆหลายโค้งเลย ขับเผลอๆมีพุ่งลงเขาน่ะ เตือนไว้ก่อน
จุดชมวิวดอยกิ่วลมมีจุดชมวิวทั้งสองฝั่ง สวยงามไม่ต่างกัน ถ้าขึ้นมาถึงช่วงเช้าก็จะเจอทะเลหมอกที่สวยงาม แต่ทุกครั้งที่ผ่านจุดนี้ก็เป็นช่วงสายหรือบ่ายทุกที คงต้องกลับไปใหม่อีกครั้งล่ะมัง
14.บ้านจ่าโบ่
” อาบูดะยา ” สวัสดีทักทายในภาษาชาวเขาเผ่าลาหู่ (มูเซอ )
มานอนโฮมสเตย์ที่บ้านจ่าโบ อ.ปางมะผ้า คืนล่ะ 200 บาท ค่าอาหารอีก 100 บาท ได้ความสุขสงบเรียบง่ายแบบที่หาในเมืองไม่ได้ เที่ยวแบบนี้ซะบ้าง ชีวิตถึงจะครบรสชาติ และไม่ว่าพรุ่งนี้เช้าจะเจอบรรยากาศแบบไหนที่หน้าบ้านแต่เท่าที่เห็นและสัมผัสในตอนนี้ มันอิ่มใจที่สุดแล้วล่ะ
จริงๆเค้าเตรียมห้องนอนไว้ให้แล้ว แต่บังเอิญเอาเต๊นท์กับฟูกมาเอง เลยแบกมานอนที่ระเบียงบ้านซะเลย ตอนนี้นอนฟังเสียงฝนตกก่อน ไม่ได้เที่ยวฟิลนี้พักใหญ่แล้ว ต้องรีบตักตวง อิอิ อ้อ สำหรับคนที่กลัวฝน เที่ยวหน้าฝนบอกเลยสบายสุดๆเลยน่ะ คนน้อยหายใจคล่อง ต้นไม้ภูเขาเขียวขจีสดชื่น ที่พักก็ถูก เห็นที่ปายลดราคากันพรึ่บและฝนมันไม่ได้ตกกวนเราตลอดเวลาจนเที่ยวไม่ได้ซักหน่อยนิหน่า … ^^
🌿
🌱
🌲
🌳
🍀
☘
บ้านจ่าโบ่เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บนสันเขามีชาวลาหู่แซแล(มูเซอดำ) อาศัยอยู่ ทิวทัศน์สวยงามโดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ส่วนหน้าฝนหมอกไม่ค่อยมีแต่ก็จะสดชื่นเที่ยวสบายได้อีกบรรยากาศ
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ….. จาก.ปางมะผ้า ตรงไปทางแม่ฮ่องสอนอีกราว 10 กม. แล้วเลี้ยวขวาบนถนนสาย 1226 อีก 3 โล ก็ถึงหมู่บ้านจ่าโบ่แล้วจ้า ถนนทางเข้าดีมาก รถเล็กรถทุกชนิดสามารถเข้าถึงได้ จะมาพักโฮมสเตย์ที่นี่ควรติดต่อจองล่วงหน้า (หน้าฝนสบายคนน้อยมาก แต่หน้าหนาวตัวใครตัวมันน่ะ คนเยอะแน่นอน) สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทั้งที่พักและกิจกรรมท่องเที่ยวในบ้านจ่าโบ่ได้ที่คุณศรชัย 0806775794
ไปเที่ยวหน้าฝนมันดีต่อใจแบบนี้เอง ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านดังร้านนีไม่มีคนเลย ทั้งร้านเป็นของเรากันเลย เจ้าของร้านบอกว่าช่วงหน้าท่องเที่ยว มีต้องรอกันสองสามชม.น่ะ ….. ไม่เอาด้วยจ้าาาา มาเที่ยวช่วงนี้ดีกว่า สบายกว่า ชิลกว่าเป็นไหนๆ
อาหารเย็นที่โฮมเสตย์ อร่อยทานได้หมดทุกอย่าง แต่เค้าใจดีกลัวว่าเราทานไม่ได้ เลยเจียวไข่ให้อีกต่างหาก
เดินเก็บบรรยากาศภายในหมู่บ้าน ชิลจัง
ชาวบ้านและเด็กๆเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากๆ อาจจะเป็นเพราะช่วงหน้าหนาว นักท่องเที่ยวขึ้นมาเต็มดอย เค้าคงปรับตัวกันมานานแล้ว
เจ้าของโฮมสเตย์ที่เรานอน เข้าครัวทำอาหารเย็นให้ทาน ภาพแบบนี้ ฟิลแบบนี้ที่ชอบที่สุดถ้าได้มาเที่ยวต่างจังหวัด เพราะมันหาในเมืองไม่ได้อีกแล้ว
เตียงนอนง่ายๆ ห้องกว้าง นอนสบาย มีมุ้งด้วย แต่เราเลือกที่จะนอนในเต้นท์ที่ระเบียงห้อง
กางเต้นท์นอนกันตรงนี้เลย
ถ้าไม่กางเต้นท์ ก็ปูเสื่อนอนเล่นชิลลมากกกก
จุดชมวิวส่วนตัวที่บ้านเลย
15.สะพายซูตองเป้
สะพานซูตองเป้เป็นสะพานไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นด้วยความศรัทธาของชาวบ้าน ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยคำว่า “ซูตองเป้” เป็นภาษาไทยใหญ่ มีความหมายว่า “อธิษฐานสำเร็จ” ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากได้มาแล้วอธิษฐานขอความค
การเดินทางไปสะพานซูตองเป้สามารถไปได้สองทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เส้นทางแรกให้ใช้เส้นทางแม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้
16.ปางอุ๋ง
ปางอุ๋ง หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆว่าโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อยู่ที่บ้านรวมไทย ปางอุ๋งที่คุ้นตาคือภาพพระอาทิตย์ขึ้นสะท้อนผิวน้ำกับไอหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำ หมอกลอยขาวคลุ้งกระทบแสงเฉียงยามเช้าที่สาดผ่านทิวสนเข้ามาที่ลานกางเต๊นท์ มันช่างเป็นโมเม้นท์แห่งความฝันจริงๆ และก็ฝันไปเรื่อยๆเพราะไปทีไรก็ยังไม่เจอแสงและหมอกที่ว่าเลยซักครั้ง ^^ ปางอุ๋งที่ได้สัมผัสในวันฝนตก ไร้หมอกไร้แสงแม้จะเป็นปางอุ๋งที่อับโชคอันแสนเศร้าและเหงาหงอยแต่ก็เงียบสงบและโรแมนติคไม่เบา การที่ได้ไปเที่ยวปางอุ๋งยามที่คนเค้าไม่เที่ยวกัน มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ทำให้เรานิ่งขึ้น ได้มีเวลาใช้ความคิดและให้เวลากับตัวเองเต็มที่ จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยนั่งทานข้าวอยู่บนแพคนเดียวแล้วมองวิวไปพลางก็คิดว่า นี่ถ้ามีหมอก มีแสงเทพสวยๆ ป่านนี้ฉันก็คงกำลังวิ่งถ่ายรูปอย่างไม่ลืมหูลืมตาอยู่สิน่ะ และกว่าจะได้ทานข้าวเช้าก็คงสาย คงไม่มีเวลามานั่งเคี้ยวเอื้องทานข้าวไปชมวิวไปแล้วให้เวลาเดินผ่านไปช้าๆแบบนั้นแน่ๆ
แต่แม้จะมีโอกาสได้นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสวยงามเงียบสงบตรงหน้าอย่างเต็มที่ ฉันก็ยังอยากจะวิ่งถ่ายรูปตอนแสงเทพสาดส่องผ่านทิวต้นสนและมีฉากเป็นหมอกบางลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือทะเลสาบแห่งนี้อยู่ดี เพราะฉะนั้นขอกลับไปแก้ตัวน่ะจ๊ะ ปางอุ๋งที่รักแต่เหนืออ่างเก็บน้ำแห่งนี้อยู่ดี เพราะฉะนั้นขอกลับไปแก้ตัวน่ะจ๊ะ ปางอุ๋งที่รัก
และเหมือนครั้งก่อนๆ คือไปตอนฝนตกอีกแล้ว นักท่องเที่ยวน้อยมากแทบไม่มีเลย แต่ก็ไหนๆก็ตั้งใจมานอนในนี้แล้วก็ต้องจัดกันหน่อย รอบนี้จริงๆตั้ใจจะเป็นทริปคาร์แคมป์ปิ้งซะหลายวันเลยเอารถ Chevrolet Trailbrazer 2.5 duramax 2017 รุ่นนี้เป็น 4WD พร้อมลุยหน้าฝนโลด สมรรถนะรถไม่ต้องพูดถึงเพราะเคยใช้ แรงดีขับดีถึกดีทัศนวิสัยดี ขับขี่ทางไกลและการขับขึ้นลงเขาตลอดทั้งทริปด้วย ด้วยรถมันใหญ่ รู้สึกว่ามันเหมาะกับทริปยาวๆแบบนี้ เพราะสามารถขนสัมภาระได้มากเท่าที่ต้องการ ปรับพื้นที่ในรถเป็นห้องนอนสำหรับบางคืน ปูฟูกพับสามตอนที่มีอยู่เป๊ะมาก นอนเป็นเตียงนอนที่บ้านสบายเลย การทรงตัวบนทางโค้งขึ้นลงเขาและทางราบก็ดีงาม มีระบบเบรคทางลาดเพิ่มความปลอดภัยในการขับเที่ยวบนเขามากๆ ลงเขามาแล้วขับทางราบยิ่งฟืนแน่นปั๊กๆ รถสูงทัศนวิสัยดีเยี่ยม มีระบบเตือนอัตโนมัติหลายอย่างเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่อย่างดีเลย ใช้แล้วรู้สึกปลอดภัยมั่นใจดีน่ะ จะเสียก็ตรงมันดูจะเวิ้งว้างไปหน่อยถ้าใช้คนเดียว 555
ปล…ฟูกนุ่นพับนอนได้สามตอนอันนี้เวิรค์มากบอกเลย เคยแบกไปนอนเต้นท์ตามอุทยานแห่งชาติหลายครั้ง นอนหลับสบายตื่นมาไม่ปวดหลัง ใครพบเห็นที่ไหนจัดเลย ไม่กี่บาทหรอก คุ้มมาก อันนี้แม่บอกว่าซื้อที่ลำพูนน่ะ
มีซ้อมจัดรถก่อนเดินทางด้วยน่ะ 555
ชีวิตจริงกับคาร์แคมป์ที่ปางอุ๋งแสนดีงาม นี่นั่งดูรูปก็ยังอยากจะกลับไปอีกน่ะ
จัดแจงปูเตียงเรียงร้อย สวยงามฟินนอนหลับสบาย อิอิ
ชอบเที่ยวแบบนี้มากๆ ถ้ามีโอกาสจะแว๊บไปบ่อยๆ แต่ก่อนที่บ้านไปนอนกางเต๊นท์กันบ่อยด้วย ตอนพ่อแม่ยังแข็งแรงนี่ไปเที่ยวกัน 2 คนตายาย หายไปกันทีครึ่งเดือนเลยน่ะ เคยปักกลดอยู่อช.ตากสินกันเป็นอาทิตย์ด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องอุปกรณ์นอนเต๊นท์ ที่บ้านมีครบจ้าาา เพียงแค่ไม่ได้เอาชุดหุงหาอาหารติดมาด้วย มันเยอะไปสำหรับการมานอนเป็นคืนๆแบบนี้ หาซื้ออุดหนุนชาวบ้านเค้าดีกว่า
ซึ่งเราจัดหมูกะทะมาชุดนึง ฟินที่สุดในสามโลกบอกเลย
ขับรถไปเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยลาน
17.บ้านรักไทย
บ้านรักไทย ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานโดยอดีตทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” (เหมือนที่ดอยแม่สลอง) บ้านรักไทยอยู่ไม่ไกลจากปางอุ๋งเท่าไหร่ (ใช้ทางเข้าทางเดียวกัน) เนื่องจากที่นี่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1776 เมตร จึงทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกชาพันธุ์ดีและพืชผักผลไม้เมืองหนาว ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากทิวทัศน์ของหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขาและอ่างเก็บน้ำที่สวยงามโรแมนติคขั้นเทพแล้ว บ้านรักไทยยังขึ้นชื่อเรื่องชาและขาหมูหมั่นโถวอีกด้วย ใครมาเที่ยวต้องหาร้านชิมดูนะคะ ตอนนี้มีร้านกาแฟลีไวน์ เปิดชั้นสองยิ่งชิลล์น่ะ
เส้นทางมาบ้านรักไทยจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของแม่ฮ่องสอนตลอดทางเช่นภูโคลน น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง ปางอุ๋ง (ต้องแยกเข้าไปทางบ้านรวมไทย) มาแล้วคุ้มมาก ถนนถือว่าดีตลอดทางแต่มีช่วงคดเคี้ยวหักศอกและขึ้นเขาชันมากหลายช่วงนะคะ ใครขับรถไม่แข็งไม่แนะนำค่ะ อ้อ เส้นนี้มีแต่ปั้มหลอดน่ะ และแพงมาก ก่อนเข้ามาเที่ยวก็เติมน้ำมันกันเข้ามาก่อน จะได้ขับรถกันอย่างสบายใจ
18.ภูโคลน
ภูโคลน คันทรี คลับ เคยเป็น unseen Thailand และเป็นแหล่งน้ำแร่และโคลนธรรมชาติที่มาจากสายน้ำแร่ใต้พื้นดิน ที่มีความร้อนตั้งแต่ 60 – 140 องศาเซลเซียสเป็นโคลนเดือด บริสุทธิ์สีดำ ที่ขึ้นมาพร้อมกับน้ำแร่ธรรมชาติที่สะอาดและไม่มีกลิ่นของกำมะถัน ซึ่งอุดมไปด้วย แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์กับผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์เราซึ่งมีเพียงแค่ 3 แห่งในโลกคือ
– แหล่งโคลนจากทะเลสาบ DEAD SEA ในประเทศอิสราเอลและจอร์แดน เป็นโคลนจากทะเลน้ำเค็ม เกิด จากการละลายตัวของหิมะบนเทือกเขาสูงในประเทศซีเรีย และจอร์แดนได้พาเอาดินโคลนบริสุทธิ์จาก เทือกเขา ไหล ลงมารวมกันที่ทะเลเดดซีสะสมมานานนับพันๆปี
– แห่งที่สองอยู่ในประเทศโรมาเนียเป็นแหล่งโคลนจากลาวาภูเขาไฟหรือโคลนจากภูเขาไฟ
-และ แหล่งโคลนบ่อน้ำพุร้อนที่โป่งเดือดแม่สะงา หรือ ภูโคลน จ.แม่ฮ่องสอน ประเทศไทย (ข้อมูลจาก (www.paiduaykan.com)
กิจกรรมที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคือ การพอกหน้า พอกตัว ด้วยโคลน และแช่เท้าน้ำแร่ เราทำแพ็คเกจพอกหน้าและแช่เท้า 120 บาท ก่อนขึ้นปางอุ๋ง หรือบ้านรักไทยก็แวะทำสวยกันก่อนได้น่ะ ผ่อนคลายมากๆ ส่วนพอกหน้านี่รู้สึกว่าผิวกระชับขึ้น รู้สึกหน้าสะอาดเด้งดีน่ะ แต่ไม่ได้ซื้ออะไรกลับหรอกเพราะเป็นคนขี้เกียจไม่ค่อยดูแลตัวเองที่บ้านเท่าไหร่ ซื้อไปก็เสียเปล่า สู้มาให้เค้าทำให้ปีล่ะครั้งดีกว่า (ทำสวยปีล่ะครั้งแบบนี้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะสวยน่ะ 555)
19.วัดพระธาตุดอยกองมู
หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง เป็นคำขวัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งบ่งบอกถึงสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ลักษณะของผู้คนและแหล่งท่องเที่ยวที่โดนเด่นขึ้นชื่อ รวมทั้งพระธาตุดอยกองมูแห่งนี้ด้วย ซึ่งวัดพระธาตุดอยกองมูเป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองแม่ฮ่องสอนที่ตั้งอยู่บนยอดเขากลางมือง จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ สภาพตัวเมืองและภูมิประเทศที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาได้อย่างชัดเจนและสวยงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเช้า บ่ายและเย็นย่ำไปจนถึงค่ำ เพราะฉะนั้นใครที่มีเวลาในแม่ฮ่องสอนมากพอก็ลองเผื่อเวลาขึ้นมาชมพระธาตุกับบรรยากาศที่แตกต่างทั้งกลางวันและกลางคืนกันได้นะคะ วัดนี้สวยงามทั้งวันจริงๆ
การเดินทางให้เลี้ยวซ้ายจากแยกทางหลวง 108 ตรงบริเวณอนุเสารีย์พระยาสิงหนาทราชา ถนนทางขึ้นลาดยางตลอดระยะทาง 1.5 กม.
20.ร้านกาแฟก่อนตะวันลับเหลี่ยมภูผา
มาวัดพระธาตุดอยกองมูนี่ต้องบอกว่าคุ้มเกินคุ้มเพราะนอกจากจะได้มานมัสการพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของแม่ฮ่องสอนแล้ว ยังได้ชมทิวทัศน์ของเมืองได้เต็มๆตาแบบพาโนราม่าแถมยังมีร้านกาแฟเล็กๆที่มีวิวสวยงามมากให้เราได้ไปจิบกาแฟพร้อมชมวิวสวยๆของเมืองนี้กันได้อีกต่างหาก ร้านก่อนตะวันลับเหลี่ยมภูผา เป็นร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่ด้านหลังตรงลานจอดรถของวัด ร้านตกแต่งได้เก๋ไก๋น่ารักน่านั่งมาก ไฮไลท์ของที่นี่คือระเบียงชมวิวของร้าน ที่เราสามารถชมทิวทัศน์ของทิวเขาสลับซับซ้อนเขียวขจีได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามเย็นที่แสงอาทิตย์กำลังจะลาลับตกตรงเหลี่ยมพอดี ถือเป็นจุดชมวิพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของแม่ฮ่องสอนเลยทีเดียว และใช่ว่าที่นี่จะสวยเฉพาะช่วงเย็นเท่านั้น ใครตื่นเช้าและอากาศเป็นใจก็ลองมาลุ้นทะเลหมอกที่นี่ดูนะคะ
อันนี้ตอนไปเค้าปิด เลยเอารูปจากทริปก่อนมาฝากกันแทนนะคะ
21.วัดจองคำ จองกลาง
น่าเสียดายมากกกที่รูปยังไม่ได้โหลดจากในการ์ด แล้วดันฟอร์แมทไปก่อน เป็นวันที่ไปวันจองคำ จองกลางแล้วฟ้าสวยที่สุดอีกต่างหาก มีอยู่รูปเดียวที่ทำเก็บไว้ในไอแพ่ด ดูฟ้าสิ แง๊ๆๆ
วัดจองคำ เป็นวัดที่มีความสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแม่ฮ่องสอน และปรากฏบนภาพถ่ายท่องเที่ยวของจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง ทั้งวัดจองคำและวัดจองกลางซึ่งอยู่ติดกันนั้นเป็นเสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเมืองไทใหญ่เพราะนอกจากความงดงามทางศิลปะแล้ว วัดทั้งสองยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรม และประเพณีของชาวแม่ฮ่องสอน พื้นที่ด้านหน้าของวัดซึ่งเป็นสวนสาธารณะหนองจองคำ ยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีตามประเพณีต่างๆ ในรอบปีอีกด้วย สำหรับ วัดจองคำ หรือพระอารามหลวงวัดจองคำ ตั้งอยู่ข้าง”หนองจองคำ”สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2340 และเป็นวัดแรกของเมืองแม่ฮ่องสอนที่มีความเก่าแก่และสร้างตามแบบอย่างศิลปะไทใหญ่ โดยมีสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดมากมาย
ส่วนวัดจองกลาง เป็นวัดที่ชาวบ้านให้ความสำคัญมากเนื่องจากชาวบ้านมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพระอุปคุตที่ประดิษฐานอยู่ที่ทางเข้าหน้าวัดจองกลางเชื่อกันว่าเมื่อมีการจัดงานเทศกาลหรือทำบุญต่างๆจะต้องมีการบวงสรวงพระอุปคุตเสียก่อนเพื่อเป็น ศิริมงคลแก่ตนเองและญาติพี่น้องจะทำให้เจริญก้าวหน้าและจะไม่เกิดอุบัติเหตุเพศภัยใดๆทำให้ชีวิตราบรื่นจึงยึดถือและปฏิบัติต่อๆกันมาจนถึงทุกวันนี้
(ที่มา ททท.)
22.ตลาดสายหยุด
อาหารเช้าแบบไทยใหญ่ที่ตลาดสายหยุด
มาแม่ฮ่องสอนต้องจัดอาหาเช้าแบบไทยใหญ่ในต
ถั่วพูอุ่น เป็นซุปถั่วพูบดละเอียดเคี่ยวกับผงขมิ้น แล้วเอาเส้นข้าวเปียกแบบเชียงคาน เหนียวๆนุ่มๆ ไปต้มในหม้อซุปถั่วพู พอสุกก็ตักใส่ชามแล้วโรยเครื่องพวกถั่วตำกับงา พริกเผา น้ำตาลเชื่อม และข้าวแรมฟืน (เต้าหู้ทอดของไทยใหญ่) ทอดกรอบๆ อร่อยๆๆ ข้าวซอยไทยใหญ่ ดูคล้ายๆขนมจีนน้ำเงี้ยวแต่ใช้เส้นเปียกแบ
ตลาดสายหยุด เป็นตลาดกลางที่สำคัญของแม่ฮ่องสอน ตั้งใจอยู่ระหว่างถ.สีหนาทบำรุงและถ.พาณิชย์วัฒนา
23. มาแม่ฮ่องสอนทางรถ รับประกาศนียบัตรรุ่นใหม่ได้เลย
” มาแม่ฮ่องสอนทางรถ อย่าลืมไปเอาใบประกาศแบบใหม่ด้วยน่ะ ”
ขับรถมาแม่ฮ่องสอนหลายครั้ง ทุกครั้งจะเริ่มจากกรุงเทพ เป็นการขับรถมาแม่ฮ่องสอนที่ไกลมากกก (เกินความจำเป็น อิอิ) แต่เป็นครั้งแรกที่ขอรับใบประกาศนียบัตร แถมรุ่นใหม่นี้เพิ่งเริ่มใช้วันที่ 1 สค.นี่เองน่ะ มีลายใหม่ให้เลือก 3 แบบสวยๆทั้งนั้น และแน่นอนว่าต้องเลือกแบบปางอุ๋ง เพราะไปมาหลายครั้งยังไม่เคยเห็นปางอุ๋งแบบในรูปเลย 555 แบบนี้ต้องกลับมาซ่อมอีกสินะ
แต่คราวหน้าว่านั่งเครือง Bangkok Airways มาแล้วเช่ารถขับดีกว่า ทุ่นแรงได้มากมายมหาศาลแน่นอน ตอนนี้เริ่มแป๊กและยังเหลืออีกครึ่งทางกว่าจะกลับถึงบ้าน นึกแล้วก็ขี้เกียจขับแระ อยากจะส่งรถกลับทางไปรษณีย์แล้วนั่งเครื่องกลับเลยเนี่ย แต่การมาแม่ฮ่องสอนทางรถถือเป็นเสน่ห์ของการเดินทางอย่างหนึ่งน่ะ เป็นการขับรถบนแนวเขาเป็นส่วนมาก ทั้งขึ้นลงเขา ทั้งโค้งพรึ่บพับไปมาหลายตลบ สนุกดี วิวข้างทางก็สวยขับเพลินเชียวล่ะ
เอาเป็นว่า ใครที่มาแม่ฮ่องสอนทางรถก็ไปรับได้ที่ร้านกาแฟในเหล่ากาชาดจังหวัด ถ.ขุนลุมประพาส ขวามือเลยทางแยกไปวัดจองคำจองกลางนิดเดียว
อ้อ เค้ามีให้เลือกว่าเราเป็นคนขับมาเองก็จะได้สติกเกอร์แปะว่า Super driver หรือถ้าเป็นนักท่องเที่ยวเป็นผู้โดยสารทั้งรถส่วนตัวหรือรถสาธารณะก็จะได้สติกเกอร์ว่า Super Traveller ค่าทำใบล่ะ 60 บาทเน้อ
24.น้ำพุร้อนผาบ่อง
บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่และมีความสวยงามมาก (ตอนสร้าง) ปัจจุบันน่าเสียดายที่เหมือนถูกทิ้งขว้าง เพราะสภาพขาดการดูแลบำรุงรักษา นักท่องเที่ยวไม่มีเลย ทั้งๆที่มีสิ่งปลูกสร้างถาวรที่น่าจะรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก ทั้งห้องอาบน้ำรวม ห้องอาบส่วนตัว บ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่แบบเอาไว้ว่ายได้เลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่ตอนนี้ที่นี่อยู่ในความดูแลของใครเหมือนกัน ก็แค่เสียดาย ….
ถ้ามีใครมาดูแลและปรับปรุงสถานที่อย่างจริงจัง เชื่อแน่ว่าบ่อน้ำพุร้อนผาบ่องต้องเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกแห่งหนึ่งแน่นอน
ปล…ถ่ายภาพเก็บไว้ดูเอง แต่ถ้าใครอยากจะแวะไปชมก็ได้นะคะ บริเวณพื้นที่สวยงามอยู่เพียงแต่ดูรกร้างเหมือนไร้คนเหลียวแล ^^
25.ชุมชนผาบ่อง
โฮมสเตย์คนล่ะ 300 บาท (นอน 4 คน) หรือเหมาหลัง 1500 นอนได้ 8 คนก็คนล่ะ 190 บาทเองที่บ้านผาบ่อง ช่วงฝนนี้เท่านั้นน่ะ
บ้านผาบ่อง ชุมชนน่ารักสวยงามน่าแวะมาพักมากๆ ตอนนี้เค้าดำนาหมดแล้ว เขียวสวยทั้งพื้นที่ มีโฮมสเตย์วิวทุ่งนาที่เห็นห้องมีทีวี แอร์ ห้องน้ำมัน้ำอุ่น ราคาคนล่ะ 300 บาท ไม่รวมอาหาร (ราคาเฉพาะหน้าฝนช่วงนี้) หรือถ้าเหมาหลัง (มีหลังเดียว) มี 2 ห้องนอนๆล่ะ 4 คน มาเป็นกลุ่ม 8 คนก็ราคา 1500 หรือคนล่ะไม่ถึง 200 บาทน่ะ มีกิจกรรมของชาวไตมากมายให้ได้ทำและเรียนรู้ น่าสนใจมากๆเลย ซึงชุมชนบ้านผาบ่องนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ของแม่ฮ่องสอน ป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ชาวไทยใหญ่ และ กะเหรี่ยงขาว ซึ่งสามารถใช้ชีวิตบนความแตกต่างทางวัฒนธรรมร่วมกันอย่างมีความสุข โดยได้จำลองประเพณีสิบสองเดือนของชาวไทยใหญ่ให้ได้ชมเช่น ประเพณีปอยส่างลอง หรือแห่ลูกแก้ว มาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันด้วยน่ะ
ใกล้ๆกันยังมีบ่อน้ำแร่ผาบ่องมีที่นวดเพื่อสุขภาพ เส้นทางศึกษาธรรมชาติระบบนิเวศน์แห่งขุนเขา หรือการล่องห่วงยางล่องน้ำแม่สะมาด ล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำปาย สัมผัสวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงคอยาว (กะยาน) และกะเหรี่ยงหูใหญ่ (กะยอ) ณ บ้านห้วยปูแกง เยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ชุมชน ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยใหญ่ “เฮินไต” (บ้านที่เป็นโฮมสเตย์ที่เราพักนั่นแหล่ะ) และศูนย์การเรียนรู้พันธุ์ข้าวเพื่อสุขภาพ เรียนรู้วิถีทำนา ปลูกข้าวเพื่อสุขภาพตามแนวเกษตรอีกด้วยน่ะ
การเดินทาง อยู่บนทางหลวง 108 ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมาทางแม่ลาน้อย/แม่สะเรียง แค่ 10 กม.เอง ทางเข้าให้ตามป้ายพิชชาภรณ์ เฮาส์ไปก็จะถึง
คนที่สนใจก็ติดต่อสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือราคาอัพเดทช่วงหน้าไฮ หรือราคาเหมาห้องนอนคนเดียวได้ที่ นายอมร ศรีตระกูล กำนันบ้านผาบ่อง โทร.09-3134-9181 แต่ตอนนี้มีทุ่งนามันสวยสุดน่ะจะบอกให้ อิอิ
26.ร้านกุ๊บลายข่าน
แวะอีกแล้วกับร้านกุ๊บลายข่าน ร้านริมน้ำสุดชิลน่านั่งที่ผาบ่อง คือออกมาจากหมู่บ้านผาบ่องที่ไลฟ์ไปข้างล่าง ผ่านด่านตรวนิดเดียวก็ถึง ร้านอยู่ขวามือบนเส้นแม่ฮ่องสอน-ขุนยวม 108 (ห่างแม่ฮ่องสอน 14กม.)
เส้นนี้หาร้านอาหารยากน่ะ มาจากแม่ฮ่องสอนห้ามซิ่งด้วยเพราะจะเลยอย่างเร็วมาก อิอิ ร้านน่านั่งน่าพักรถพักผ่อนนอนเล่น เห็นริมถนนแบบนี้แต่ชิลมากน่ะบอกเลย
ร้านเก๋โต๊ะไม้เก่าแบบนั่งกับพื้นก็มี ชั้น 2 นั่งสบายชมวิวไป หรือจะนั่งริมน้ำชิลๆก็ได้ มีอาหารฝรั่งอาหารไทย เครื่องดื่ม ชากาแฟ ราคาโอเคจ้า
ปล..เค้าเสิร์ฟชา ถั่วเหลืองคั่วและกล้วยราดน้ำผึ้งให้ทานเล่นๆกันฟรีๆอีกต่างหาก
27.ชุมชนบ้านเมืองปอน ขุนยวม
บ้านเมืองปอนตั้งอยู่ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน หมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์น่าสนใจสำหรับนักเดินทาง นักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายมาเดินเล่นนอนเล่นในบรรยากาศแบบสงบ มีวัฒนธรรมและกิจกรรมที่น่าสนใจ ทั้งกิจกรรมเรียนรู้วิถีชีวิต ศึกษาวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ โดยคิดราคาคนละประมาณ 350.- / 1 คน ซึ่งราคานี้ก็จะรวมอาหารเย็น และอาหารเช้า(สำหรับผู้ที่สนใจค้างคืน) หรือกิจกรรมหลัก ๆ ของที่นี่ก็คือ การมาเรียนรู้งานจักสานกุ๊บไต หมวกสานไม้ไผ่ / การเย็บปักเสื้อไทยใหญ่ / และที่น่าสนุกก็คือหากเป็นช่วงฤดูกาลดำนา เราก็ยังสามารถลงไปดำนาได้อีกด้วย มีโฮมสเตย์ที่พัก
บ้านโฮมสเตย์เมืองปอน ราคาคนล่ะ 350 นอนในมุ้งครอบคนล่ะอันน่ะ น่ารักดี อิอิ
ไปชมคุณลุงสานหมวกไต ที่กลุ่มจักสานกุ๊บไต ถ้าสนใจจะซื้อกลับไปเป็นของฝาก ของที่ระลึก สนนราคาก็ประมาณ 500-600 บาท ถือว่าไม่ถูก แต่กว่าจะได้มาเป็นหมวกซักใบต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก คิดว่าถือว่าซื้องานศิลปะซักชิ้นแล้วมันก็จะคุ้มค่าคุ้มราคาไปเอง ^^
28. อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น ขุนยวม
อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น ขุนยวม ตั้งอยู่ด้านฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของวัดม่วยต่อ ในตัวเมืองขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์พื้นที่นับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงยุคสร้างบ้านสร้างเมืองและเน้นหนักในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามมหาเอเชียบูรพาเนื่องเพราะมีผลกระทบกับพื้นที่และประชากรมากพอสมควรเป็นภาพอีกมุงมองหนึ่งของบทบาททหารญี่ปุ่นในประเทศไทยที่มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ เป็นอย่างมาก เป็นจุดสนใจที่น่าศึกษาอีกแห่งหนึ่ง
สงครามมหาเอเชียบุรพา เริ่มจากญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพเรืออเมริกาที่อ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ ในฮาวายแล้วขยายวงกว้างครอบคลุมทั่วเอเชีย ประเทศไทยเริ่มได้รับผลกระทบเมื่อญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย และขอใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปโจมตีฝ่ายสัมพันธมิตรในมลายู พม่าและอินเดียต่อมาประเทศไทยได้ลงนามเป็นสหายร่วมรบกับญี่ปุ่น และจัดตั้งกองทัพภาคพายัพ ขึ้นไปยึดเมืองเชียงตุงและดินแดนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวินในพม่า เป็นปีกขวาให้ทหารญี่ปุ่นในการรบเป็นแนวป้องกันทหารจีนกองพล 93 ลงมาตีตลบหลัง เพื่อให้ทหารญี่ปุ่นรุกเข้าไปในพม่าและอินเดียอย่างปลอดโปร่ง
ในระหว่างสงคราม กองทัพญี่ปุ่นได้มีแนวคิดในการสร้างเส้นทางส่งกำลังบำรุงจากประเทศไทยเข้าไปในพม่า โดยพิจารณาจากเส้นทางที่ใกล้ที่สุด เส้นทางเชียงใหม่-ตองอู ถูกกำหนดขึ้นโดยเริ่มจากบ้านแม่มาลัย อำเภอแม่แตง เข้าไปอำเภอปาย – อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แล้วลงมาที่ขุนยวม ก่อนจะดำเนินการขุดต่อไปยังชายแดนไทย-พม่า ที่บ้านห้วยต้นนุ่น เข้าประเทศพม่าข้ามน้ำสาระวิน ไปบรรจบกับเส้นทางย่างกุ้ง – ตองอู เพื่อมุ่งหน้าไปยังตองอู และต่อไปยังชายแดนพม่า-อินเดีย เส้นทางนี้ถูกสร้างโดยแรงงานคน จากการเกณฑ์จ้างราษฎรในเขตอำเภอขุนยวมและพื้นที่อื่นๆเช่นอำเภอข้างเคียงและจังหวัดข้างเคียง (เน้นการจ้างคนตามพื้นที่ที่ถนนตัดผ่าน) การสร้างถนนนี้เป็นเหตุให้เริ่มมีการติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างทหารญี่ปุ่นกับคนในพื้นที่ เพราะมีการจ้าง การติดต่อซื้อขายสินค้าจำเป็นระหว่างกัน จนรู้จักกันและไว้วางใจกัน เกิดเป็นความเอื้ออาทร เกื้อกูลกันขึ้นในยามทุกข์ยากด้วยกัน
ผลการรบที่เมืองอิมพาลและโคฮิมา บริเวณชายแดนอินเดียกองทัพญี่ปุ่นต่อต้านและปิดล้อมจากกองทัพสัมพันธมิตรและกองโจรท้องถิ่น ทำให้ต้องประสบความสูญเสียอย่าง ไม่สามารถรุกต่อไปได้ จึงเริ่มถอนกำลังกลับเพื่อฟื้นฟูกำลัง โดยใช้ขุนยวมเป็นแหล่งพำนักหลัก และจะเข้าไปรุกต่อเมื่อมีความพร้อม แต่สุดท้ายฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทั้งระเบิดปรมาณู ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปหลายแสนคน ทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ทรงประกาศยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข ทหารญี่ปุ่นจึงต้องยอมรับความปราชัย ที่ไม่ยอมรับการพ่ายแพ้ก็ฆ่าตัวตาย โดยการคว้านท้องตัวเองด้วยซามูไรสั้นที่พกติดตัว
ค่าเข้าชมเพียง 20 บาท ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะเปิดบริการนักท่องเที่ยวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 17.00 น. และในช่วงฤดูการท่องเที่ยว จะมีการเปิดให้บริการถึงเวลา 20.00 น.
การเดินทางไปอนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น ขุนยวม ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 แม่ฮ่องสอน-แม่สะเรียง อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น อยู่ในตัวอำเภอขุนยวมข้างๆเซเว่น ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่สังเกตได้ง่ายๆรอบข้างจะเป็นร้านอาหารร้านกาแฟดอยขุนหิวก็แวะกินกันก่อนได้เลยไวไฟฟรี ที่จอดรถสะดวกสบาย ห้องน้ำสะอาดน้ำไหลแรง 3G แรงกว่ากรุงเทพฯไม่พลาดโลกโซเชี่ยลอย่างแน่นอน
หรือไปไม่ถูกอีกติดต่อ เทศบาลตำบลขุนยวม โทร.0-5369-1019 ,แฟ็กซ์ 0-5369-1446 เว็บไซต์ www.khunyuam.go.th
(ขอบคุณที่มายาวๆจาก http://www.thailandexhibition.com )
29.วัดม่วยต่อ
30. จุดชมวิวแม่ลาหลวง
ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณริมถนนสาย 108 เชียงใหม่ ฮอด แม่สะเรียง แม่ลาน้อย แต่ถ้ามาจากแม่ฮ่องสอน จะถึงขุนยวม และจุดชมวิวแม่ลาหลวงก่อนถึงแม่ลาน้อย เป็นจุดชมวิวระหว่างทาง ที่น่าแวะพักรถ พักสายตาชมวิวมากๆ เพราะในช่วงฤดูทำนา เราจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม ทุ่งนาเขียวขจีในมุมกว้าง สดชื่นมากๆ รวมทั้งมีร้านกาแฟบรรยากาศดี นั่งห้อยขาจิบกาแฟชมวิวกันได้เลย
จุดนี้มาเที่ยวหน้าฝนฟินที่สุดน่ะ เพราะเคยมาช่วงหน้าร้อน คือแห้งแล้งมากบอกเลย
นั่งห้อยขาจิบกาแฟ ชมวิวเขียวขจีฟังเสียงฝนพรำ ฟินที่สุด
31. แม่ลาน้อย และโครงการหลวงแม่ลาน้อย
แม่ลาน้อยสวยที่สุดก็หน้าฝนนี่ล่ะ ภูเขาเขียวขจี หมอกบางๆลอยอ้อยอิ่งตามหุบเขา ทุ่งนาเขียวสดโดยเฉพาะที่บ้างดง ในบริเวณของโครงการหลวงแม่ลาน้อย ที่ๆเคยเป็นจุดชมวิวทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดในประเทศเลยน่ะ นอกจากทุ่งนาอันสวยงามแล้ว แม่ลาน้อยมีจุดสำคัญที่สุดที่พวกเราต้องห้ามผ่านเลยคือศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2523 สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินนาถ ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรบ้านห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2513 และได้พระราชทานทรัพย์แก่ราษฎรที่ขาดแคลนข้าว เพื่อจัดตั้งเป็นธนาคารข้าว ในปี พ.ศ. 2521 เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาพื้นที่ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ จึงมีกระแสรับสั่งให้ส่วนราชการมาพัฒนาพื้นที่ เพื่อกำหนดแผนพัฒนาชาวเขา ในปัจจุบันเราสามารถไปเที่ยวชมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อยนี้ได้สะดวกสบาย รวมทั้งแวะไปชมแปลงกาแฟอาราบิก้า พร้อมชิมกาแฟสดรสดีผลิตภัณฑ์คุณภาพจากบ้านห้วยห้อม แถมยังเป็นกาแฟพันธุ์ที่โด่งดังถือเป็นตำนานกาแฟส่วนหนึ่งที่ได้ส่งจำหน่ายให้กับโครงการหลวงและสตาร์บัคส์กันเลย เพราะกาแฟที่นี่มีรสชาติดีและได้รับการรับรอง GAP จากกรมวิชาการเกษตรอีกด้วย แถมยังได้ชมการทอผ้าขนแกะของกลุ่มแม่บ้านห้วยห้อมอีกด้วย ในช่วงฤดุทำนา ทุ่งนาขั้นบันไดของแม่ลาน้อยก็สวยไม่เบา ทัศนียภาพของเส้นทางและภูมิประเทศโดยรอบก็สวยงามน่าขับรถเที่ยวกินลมชมบรรยากาศที่สุดโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน แต่รอบนี้ไม่ได้ไปบ้านห้วยห้อมเพราะทางไม่ดีและฝนตกหมอกหนาจัดด้วย
การเดินทาง
จากตัวเมืองชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ผ่านแม่สะเรียง มุ่งหน้าอำเภอแม่ลาน้อย ถึง กม.132 ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง 1266 ขึ้นดอยอีก 30 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 053-619-533-4 , 083-324-3062
ที่ตั้ง : ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
http://royalprojectthailand.com/maelanoi
32. พระธาตุ 4 จอม แม่สะเรียง
33. ทุ่งนาแม่สะเรียง
34. ถนนคนเดินแม่สะเรียง
35. สวนสนบ่อแก้ว
สวนสนบ่อแก้ว อยู่เส้นทางหลวงหมายเลข 108 ระหว่างทางฮอด-แม่สะเรียง เป็นจุดพักรถ พักคนและสำหรับแวะเดินเล่นถ่ายภาพกันได้อย่างสวยงาม เหมาะเป็นโลเกชั่นสำหรับถ่ายแบบทั้งรถทั้งคนกันเลย ไม่แวะไม่ได้น่ะ อิอิ
Nikon D750 + 35 1.4
white balance : cloudy จะได้โทนภาพอุ่นๆแบบนี้ค่ะและถ่ายให้สว่างหน่อย ไม่งั้นมันทึบไม่เห็นรายละเอียดและลายเปลือกสนน่ะ
36. โครงการหลวงแม่โถ
37. แม่แจ่ม
38. ป่าบงเปียง
จะไปกี่ครั้ง ทุ่งนาป่าบงเปียงก้ยังสวยงามเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือบ้านพักที่มีมากขึ้นมากมาย จากครั้งแรกที่ไปตอนนั้นมีมาฉิโพหลังเดียว แต่ไม่ได้ค้าง กลับมาค้างตอนที่บ้านแฝด 2 หลังกลางนาของคุณลุงพี่วิชัยมาถึงวันนี้ป่าบงเปียงมีบ้านพักให้เลือกหลายที่หลายทำเลมากขึ้น (ไม่อยากให้มีมากกว่านี้แล้วน่ะ กลัวเป็นแบบภูทักเบิกแล้วนาหายหมด) ถนนทางขึ้นดีขึ้น มีถนนขึ้นไปช่วงนึง แต่นอกนั้นก็นั่งกระเด็นกระดอนไปจังหวะของหลุมและหินตามทาง สนุกดีแต่ระบมไปทั้งตัว 555
ทุ่งนาป่าบงเปียง ( “บง”เปียงน่ะ ไม่ใช่ “ปง”เปียง) ยังคือทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยงามและมีแลนด์สเคปสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย มันสวยงามจริงๆน่ะ ไม่ว่าจะตอนเป็นนาน้ำ ทุ่งนาสีเขียวขจีหรือเป็นทุ่งรวงทอง และแม้ว่าจะ 3 ครั้งแล้วก็ยังอยากจะไปอีกเรื่อยๆ อยากจะหาโอกาสขึ้นไปนอนอีกซักสี่ซ้าห้าวันด้วยซ้ำ
อ้อ ถ้าไม่ใช่รถ 4wd ไม่แนะนำให้เข้าทางน้ำตกน่ะ ลงมาขึ้นทางบ้านทุ่งยาว แม่แจ่ม รถเก๋งไม่แนะนำซักทาง กะบะธรรมดาขึ้นได้แต่ขับเก่งหน่อยน่ะ ส่วนคนที่ไม่มีรถขึ้น แนะนำให้หารถขึ้นจากแม่แจ่มจ้า
39. ดอยม่อนหมาก
จุดชมวิว 360 องศา สวยรอบด้าน สวยทุกมุม ด้านบนเป็นสันเขายาวๆที่รถวิ่งได้หลายร้อนเมตรเลยน่ะ เรานั่งรถขึ้นไปแล้ววิ่งเล่นได้เต็มอิ่มเห็นทุกมุมของแม่แจ่ม บอกเลยสวยมากๆมุมถ่ายรูปก็เยอะ แต่ทางขึ้นมาซับซ้อนเล็กน้อย แถมแคบมาก ใครอยากมาแนะนำให้ติดต่อไกด์ท้องถิ่นน้องบ๊อบบี้ เบอร์ 0841087326 ดีกว่า ไกด์แม่แจ่มย่อมรู้จักแม่แจ่มดีกว่าใคร ให้เค้าพาทัวร์พาเที่ยวแถมแนะนำพิกัดถ่ายรูปสวยๆเพียบเลยน่ะ
รีวิวในเพจ https://www.facebook.com/marianaklaibaantrip/posts/1490793597610075
40. น้ำตกแม่ยะ
น้ำตกแม่ยะ เคยครองตำแหน่งน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ก่อนที่จะมีการค้นพบทีลอซู และไม่ว่าตอนนี้ที่นี่จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่เท่าไหร่ แต่แม่ยะก็สวยงามและยิ่งใหญ่เสมอไม่มีเปลี่ยน แถมเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ถ่ายรูปสวยทุกมุมและเข้าถึงง่ายมากเพราะอยู่ห่างจากตัวอำเภอจอมทอง เชียงใหม่แค่ 10กม. นิดๆ รถทุกชนิดเข้าถึงและเดินตามทางสวยๆไปอีกแค่ 600 เมตรเอง ช่วงนี้น้ำสวยมาก ชุดนี้ถ่ายเดือนสค.ที่ผ่านมา
ชุดนี้ใช้ Nikon D750 + 35 1.4